เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ตำรวจมหาสารคาม จับอาจารย์ เพิ่งได้รับการบรรจุใกล้จบ ป.เอก ก่อเหตุช่วงโควิด-19 ลักทรัพย์ภายในมหาวิทยาลัยไปขายแลกยาบ้า

 

ที่ห้องสืบสวน  สถานีตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม  พ.ต.อ.อิทธิเดช  สุนทร  ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม  พ.ต.ท.ไกรทอง  ชัยสิงห์  รองผู้กำกับสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม  พ.ต.ท.อำนาจ  เศษสุ สว.สส.สภ.เมืองมหาสารคาม  พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม  ร่วมกันจับกุม นายภัทรพงศ์  ไชยชิน  อายุ 30 ปี พร้อมด้วยของกลางยาบ้าจำนวน 1,000 เม็ด  ไอซ์ น้ำหนักรวม 2.64 กรัม  และนายพงษ์ศักดิ์  ซิมมอนด์ส  อายุ 37 ปี  พร้อมด้วยของกลางยาบ้า 27 เม็ด

โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย  ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะขยายผลทราบว่า  นายพงษ์ศักดิ์  ซิมมอนด์ส ได้ก่อเหตุลักทรัพย์ภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม  อีกด้วย

พ.ต.ท.ไกรทอง  กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้ง นายอิทธิพล พวังคาม นิติกรปฏิบัติการ รักษาการในตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มงานวินัยและนิติการ และนายพิชิต เปลี่ยนขำ นิติกรปฏิบัติการ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อตำรวจว่ามีพัสดุครุภัณฑ์สูญหาย เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา บริเวณชั้น 9-15  ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มีทรัพย์สินสูญหายไปเป็นเครื่องโปรเจคเตอร์ 17 เครื่อง และคอมพิวเตอร์ 1 ชุด และได้มอบภาพจากกล้องวงจรปิดให้เจ้าหน้าที่ได้ติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุ

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ออกติดตามหาข่าวจนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายพงษ์ศํกดิ์  ซิมมอนด์ส  เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามไปยังบ้านพักบริเวณหลังวัดมหาชัย ต.ตลาด อ.เมือง  และนำภาพจากกล้องวงจรปิดให้ดู เบื้องต้น นายพงษ์ศักดิ์ ยอมรับว่าได้ก่อเหตุลักทรัพย์จริง และพบยาเสพติดอยู่ในบ้านพักด้วย โดยนายพงษ์ศักดิ์พูดจาวกไปวนมาเนื่องจากเพิ่งเสพยาบ้าไปไม่นานเจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวมาสอบสวนต่อที่ สภ.เมืองมหาสารคาม

ทราบเพิ่มเติมว่า ได้นำเครื่องโปรเจคเตอร์ ไปแลกยาบ้าจำนวน 30 เม็ด จากนายภัทรพงศ์ ไชยชิน ซึ่งเคยรู้จักกันในเรือนจำ เจ้าหน้าที่จึงได้เดินทางไปควบคุมตัวนายภัทรพงศ์ ที่หอพักแห่งหนึ่ง ก่อนพบว่านายภัทรพงศ์ได้ซุกซ่อนยาบ้าและไอซ์ไว้ในตัวและห้องพัก ก่อนจะนำตัวไปที่ร้านรับฝากเพื่อนำของกลางมาตรวจสอบ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาในคดียาเสพติดให้กับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ก่อนจะแจ้งข้อหาในคดีลักทรัพย์ในสถานที่ราชการต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง