เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เจ้าหน้าที่…!! ตรึงกำลังเข้ม รอบเรือนจำกระบี่ หลังนักโทษชายก่อเหตุจลาจล

กรณีเกิดเหตุนักโทษภายในเรือนจำ จ.กระบี่ ก่อเหตุจลาจลขึ้นภายในเรือนจำตั้งแต่ช่วงค่ำที่ผ่านมา เนื่องจากบรรดานักโทษภายในเรือนจำที่มีอยู่กว่า 2 พันคน ไม่พอใจที่ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ไม่ถูกนำตัวออกไปรับการรักษา และเกิดการระบาดของเชื้อภายในเรือนจำอย่างรุนแรง มีผู้ติดเชื้อแล้วหลายร้อยคน ทำให้กลุ่มนักโทษ และผู้ต้องขัง ปลุกระดมนักโทษภายในเรือนจำกว่า 70 คน ทำลายข้าวของเครื่องใช้ภายในโรงฝึกอาชีพ ทางเรือนจำกระบี่ ต้องประสานขอกำลังจากตำรวจ ฝ่ายปกครอง และทหาร เข้ามาช่วยกันป้องกันรอบบริเวณ เพราะเกรงนักโทษจะหลบหนีออกมาภายนอกเรือนจำ

นอกจากนี้ จนท.ราชทัณฑ์ ต้องใช้ปืนยิงกระสุนยางใส่กลุ่มนักโทษที่มีพฤติกรรมรุนแรง จนมีนักโทษได้รับบาดเจ็บจากกระสุนยางไป 3 ราย ถูกนำตัวส่ง รพ.กระบี่ ขณะที่ พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ ผบก.ภ.จ.กระบี่ สั่งการให้ทางตำรวจชุดเจรจา เข้าไปเจรจาเพื่อรับทราบข้อเรียกร้องจากกลุ่มนักโทษ จนทางกลุ่มนักโทษเรียกร้องขอให้นำผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 14 ราย ออกไปรักษาที่ รพ. ต่อมาทาง จนท.จึงประสานไปยังสาธารณสุข จ.กระบี่ และ รพ.กระบี่ ให้เตรียมพื้นที่รับนักโทษที่จะไปรักษา 14 ราย ก่อนจะทยอยเคลื่อนย้ายนักโทษทั้ง 14 ราย ออกไปส่งรักษาที่ รพ.กระบี่ โดยมี จนท.เรือนจำกระบี่ และตำรวจ จัดเวรยามคอยเฝ้าตลอด 24 ชม.

 

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

-จากเหตุกลุ่มวัยรุ่นหลายสิบคนแต่งตัวคล้ายเด็กช่าง ยกพวกวิ่งไล่ทำร้ายร่างกายกัน หลังออกจากโรงหนัง จับตัวได้แล้ว

-ไม่น่าให้ประกัน ผู้ต้องหายิงคนตาย 2 ศพ พอได้ประกันตัว ออกมายิงพยานเพิ่มอีก 1 คน

 

จากนั้นนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผวจ.กระบี่ และ พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.บชภ.8 เดินทางมายังเรือนจำกระบี่ เพื่อบัญชาการร่วมกับ พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ โดยทราบว่ากลุ่มนักโทษที่ก่อเหตุจลาจลภายในเรือนจำ พยายามที่จะพังรั้วเข้าไปยังฝั่งของผู้ต้องขังหญิง จนท.จึงหารือกันว่าให้เคลื่อนย้ายผู้ต้องขังหญิง จำนวน 300 คน ออกจากเรือนจำเพื่อความปลอดภัย เพราะเกรงว่าเหตุการณ์จะลุกลามบานปลาย โดยย้ายไปคุมขังชั่วคราวที่เรือนจำชั่วคราว ต.กระบี่น้อย อ.เมืองกระบี่ ส่วนกลุ่มนักโทษที่ก่อจลาจล ยังคงตะโกนโวยวายเสียงดังตลอดทั้งคืน จนท.ทำได้เพียงตรึงกำลังไว้คุมไม่ให้เหตุการณ์รุนแรงมากขึ้น และเตรียมเรียกประชุมในตอนเช้าอีกครั้ง.