เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

โลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอจากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า พ่อน้องนนท์ กับน้องไพลิน ซึ่งได้โพสต์คลิปพร้อมข้อความว่า “นุ่มนวล… ชวนตะลึง !” เผยให้เห็นภายจากกล้องวงจรปิด ที่บันทึกให้เห็นพนักงานรายหนึ่ง ที่อยู่บนรถขนสินค้าของบริษัท ทั้งเตะและโยนพัสดุออกจากรถ โดยไม่มีทีท่าจะสนใจว่าสิ่งของภายในจะพังเสียหายหรือไม่

ต่อมา เฟซบุ๊กแฟนเพจห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส.ที.เอส.อาร์ ทรานสปอร์ต ซึ่งเป็นเจ้าของรถคันดังกล่าว ได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าพนักงานชายที่อยู่ในคลิปไม่ใช่พนักงานของบริษัทตนเอง ซึ่งได้ให้บริการเช่ารถในการขนส่งพัสดุกับบริษัทขนส่งรายหนึ่ง พร้อมกันนี้ยังได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว และจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ ยังได้นำตัวชายในคลิปออกมาแถลงข้อเท็จจริงว่า ตนเองเป็นพนักงานขับรถชั่วคราว การกระทำของตนทำไปโดยขาดความยั้งคิด ต้องขอโทษลูกค้าทุกท่านเป็นอย่างสูง ตอนนี้ตนได้พ้นสภาพจากการเป็นพนักงานขนส่งดังกล่าวแล้ว การกระทำของตนไม่เกี่ยวกับบริษัทรถเช่าและขนส่งแต่อย่างใด

โดยโพสต์ชี้แจงของทาง ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส.ที.เอส.อาร์ ทรานสปอร์ต ระบุว่า “จากกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปจากกล้องวงจรปิด ในโลกโซเชียล ซึ่งบุคคลตามในคลิปได้ทำการโยนพัสดุและใช้เท้ากับพัสดุของลูกค้านั้นไม่ใช่พนักงานของ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส.ที.เอส.อาร์ ทรานสปอร์ต ในการนี้ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส.ที.เอส.อาร์ ทรานสปอร์ต ขอเรียนชี้แจงให้ทุกฝ่ายทราบว่า

พฤติกรรมของบุคคลดังกล่าวในคลิป ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส.ที.เอส.อาร์ ทรานสปอร์ต และบุคคลดังกล่าวไม่ใช่พนักงานของ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส.ที.เอส.อาร์ ทรานสปอร์ต จากพฤติกรรมในคลิป ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส.ที.เอส.อาร์ ทรานสปอร์ต ได้ประกอบธุรกิจให้บริการขนส่ง และให้เช่ารถ

ซึ่งทางเราได้ให้บริการเช่ารถในการขนส่งพัสดุ กับบริษัทขนส่งรายหนึ่ง ซึ่งมีสัญญาการเช่ารถ และเงื่อนไขในการว่าจ้างระบุ ไว้ว่า ผู้เช่าจะเป็นผู้จัดหาพนักงานขับรถ และบริหารจัดการในด้านต่างๆเอง โดยทางห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส.ที.เอส.อาร์ ทรานสปอร์ต ได้ให้เช่าตัวรถ และติดสัญลักษณ์ ของห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส.ที.เอส.อาร์ ทรานสปอร์ต เพียงเท่านั้น

จึงขอเรียนชี้แจงให้ทราบเพิ่มเติมและขอให้ทุกฝ่ายโปรดเข้าใจว่าการกระทำดังกล่าวนับเป็นการกระทำส่วนบุคคล พฤติกรรมของบุคคลในคลิปคนดังกล่าวได้ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส.ที.เอส.อาร์ ทรานสปอร์ต โดยขอยืนยันว่าห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส.ที.เอส.อาร์ ทรานสปอร์ต มิได้เกี่ยวข้องกับบุคคลดังกล่าวแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส.ที.เอส.อาร์ ทรานสปอร์ต ได้ดำเนินการลงบันทึกประจำวันไว้เรียบร้อยแล้ว และอยู่ในระหว่างขั้นตอนการดำเนินคดีความต่อไป”