เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมหน่วยงานเศรษฐกิจ คณะที่ปรึกษาเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรี และกระทรวงมหาดไทย ที่ทำเนียบรัฐบาล วานนี้ (3 พ.ค.) เพื่อหารือมาตรการเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ระลอก 3 เพื่อเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันพรุ่งนี้ (5 พ.ค.)

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้สอบถามถึงความคืบหน้าของการออกมาตรการในการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ระลอกล่าสุดหลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีการมอบหมายให้ สศช.และกระทรวงการคลัง ทำมาตรการมาเสนอ

โดยนายกรัฐมนตรีต้องการเร่งให้ประกาศมาตรการให้ประชาชนได้ทราบ เพื่อให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจกับความเดือดร้อนของประชาชนที่เกิดขึ้น จึงให้มีการนำชุดมาตรการที่จะออกมาเป็นหลักการเบื้องต้นเสนอให้ ครม.พิจารณาก่อน

ทั้งนี้ หน่วยงานเศรษฐกิจได้ให้ข้อมูลกับนายกรัฐมนตรี ว่า มาตรการเยียวยาประชาชนยังต้องใช้เวลาในการประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นกับทางเศรษฐกิจอย่างรอบด้านเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดเนื่องจากการระบาดในครั้งนี้ถือว่าเป็นสถานการณ์ที่หนักและมีความรุนแรง ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในวงกว้างจึงต้องดูว่าวงเงินที่จะใช้เยียวยาเท่าไหร่จึงจะเพียงพอเหมาะสม

สำหรับมาตรการที่สามารถดำเนินการได้เลยคือมาตรการ “คนละครึ่ง” เฟส 3 ซึ่งใช้วงเงินประมาณ 4-5 หมื่นล้านบาท ซึ่งกระทรวงการคลังได้ส่งเรื่องให้กับคณะกรรมการกลั่นกรองเงินกู้ฯ ที่มี สศช.เป็นประธานแล้ว คาดว่ารายละเอียดของโครงการนี้จะมีการพิจารณาและนำเข้าสู่การประชุมของ ครม.ในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน พ.ค.นี้

รวมทั้งเปิดลงทะเบียนในเดือน พ.ค.นี้ และมีผลในเดือน มิ.ย.นี้ โดยมาตรการที่ดำเนินการจะช่วยให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ช่วยเหลือร้านค้ารายย่อยได้หลังจากมาตรการเศรษฐกิจที่ออกมาก่อนหน้านี้ทยอยหมดลงปลายเดือน พ.ค.นี้

ส่วนมาตรการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เฟส 3 มีแนวความคิดให้เลื่อนโครงการออกไปในช่วงระยะเวลาที่เหมาะสมหลังจาก ศบค.ประกาศขอให้มีการงดการเดินทางในหลายพื้นที่เพื่อจำกัดการแพร่ระบาดของโรค ซึ่งการเลื่อนระยะเวลาโครงการเที่ยวด้วยกันจากเดิมที่ให้สิทธิ์เราจอง 2 ล้านสิทธิ์ เริ่มต้นในวันที่ 17 พ.ค.นี้

ทั้งนี้ คาดว่าจะให้เริ่มลงทะเบียนใหม่ในเดือน มิ.ย.และขยายระยะเวลาการสิ้นสุดโครงการไปจนถึงวันที่ 31 ธ.ค.2564 จากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 ส.ค.2564

ข่าวที่เกี่ยวข้อง