ยังคงเป็นที่คาใจของพ่อแม่ และครอบครัวของเด็กชายซูลุยผิว หรือ น้องต้าแง อายุ 2 ขวบ ชาวเมียนมา ที่เสียชีวิตภายในป่าไร่อ้อย หลังหายตัวไปนาน 9 วัน ซึ่งครอบครัวเชื่อว่าเด็กชายอาจถูกฆ่าและอำพรางศพ ไม่ใช่แค่ติดป่าแล้วเสียชีวิต แม้ผลการชันสูตรเบื้องต้นจะออกมายืนยันแล้วว่า ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย พบเพียงรอยถูกสัตว์กัดแทะนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2561 เพจอีจัน ได้รายงานบทสัมภาษณ์ คุณปฏิมา ตั้งปรัชากุล ผู้จัดการมูลนิธิ LPN ล่ามแปลภาษาแก่ครอบครัวของเด็กชายซูลุยผิว เปิดเผยว่า ตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2 วันแรกที่เด็กชายหายตัวไป เจ้าตัวได้มีการพูดคุยกับเด็กหญิง 1 ใน 2 คน ซึ่งเป็นเด็กที่เล่นอยู่กับน้องซูลุยผิว ก่อนจะหายตัวไป โดยเด็กหญิงวัย 3 ขวบ เล่าว่า น้องซูลุยผิว เสียชีวิตแล้วตั้งแต่วันแรก พร้อมกับชี้ไปทางจุดที่พบศพ แต่ตอนนั้นยังไม่มีใครเชื่อ จึงได้มีการออกตามหา
“ตอนที่สัมภาษณ์วันนั้น เขาแค่บอกว่าไม่อยู่แล้ว น้องไม่อยู่แล้ว ตายแล้ว ไม่มีแล้ว”
ทั้งนี้ ในส่วนของเรื่องรถไถที่ตกเป็นที่สงสัยนั้น วันแรกที่ตนเองได้คุยกับเด็กหญิง เด็กหญิงมีการพูดถึง พร้อมกับพาไปชี้ที่รถ ซึ่งตนเองก็สงสัยประเด็นนี้เช่นกัน วันที่เด็กหายไปรถก็หายไปด้วย และมีการเปลี่ยนผานที่เป็นเหล็กที่ใช้ตัก ก่อนรถกลับมาใหม่
ทั้งนี้ ของที่พบในจุดพบศพ อาทิ หมวกสีฟ้า รองเท้าสีส้ม เป็นของเด็กชาย ยกเว้นรถของเล่นไม่ใช่ของเด็กชาย ตนเชื่อว่าศพเด็กชายน่าจะมีการนำไป เพราะจุดที่พบศพเป็นจุดที่ค่อนข้างไกล เด็กไม่สามารถเดินเข้าไปได้ไกลขนาดนั้น เพราะพ่อเด็กบอกว่าลูกชายเพิ่งจะหัดเดิน
ภาพและข้อมูลจาก เพจอีจัน