เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

นางสาวอทิตยา เจตภักดีสกุลจริง อายุ 49 ปีอยู่บ้านเลขที่30 / 2 ซอยนาคบำรุง แขวงคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร ได้นำทองคำรูปพรรณปลอมน้ำหนัก 1 บาทเข้าแจ้งความกับพ.ต.ท.อมรวัฒน์ ปานดี  สารวัตรสอบสวนสภ.ศรีราชา ซึ่งทองคำดังกล่าว ตนเองได้ไปซื้อทองรูปพรรณ ที่ห้างทองแห่งหนึ่ง ที่ชั้นใต้ดิน ในห้างชื่อดังใจกลางเมืองศรีราชาซึ่งในวันที่ 8  เมษายน 2561 โดยทางร้านทองได้จัดโปรโมชั่นทำให้มีลูกค้าเป็นจำนวนมากและมีพนักงานขายของในร้านทองจำนวนหลายคน

ซึ่งตนเองได้นำแหวนทองคำหนัก 1 สลึงจำนวน 2 วงไปเปลี่ยนเป็นสร้อยข้อมือ 1 บาทต่อมาตกลงซื้อสร้อยข้อมือหนัก 1 บาท จำนวน 1 เส้นและพนักงานของร้านได้ชั่งน้ำหนักพบว่ามีน้ำหนัก 15.2 กรัม หลังจากนั้นตนเองได้รับทองกลับมาจนกระทั่งวันนี้ได้นำข้อมือที่ซื้อมาจากทางร้านไปขายกับร้านทองที่ตนเองซื้อมา แต่ได้รับแจ้งจากพนักงานว่าทองคำดังกล่าวไม่ใช่ของทางร้าน ทั้งที่มีใบรับประกันสินค้าที่ออกจากทางร้าน ออกโดยพนักงานขาย  ซึ่งทางร้านชี้แจงพนักงานที่ขายทองคำให้ได้ออกไปนานแล้ว ทำให้ตนเองได้รับความเสียหายจึงเดินทางมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน

ทางด้านนางสาวอทิตยา กล่าวว่าวันเกิดเหตุมีลูกค้าเข้ามาในร้านทองเยอะแยะมาก หลังซื้อทองเสร็จก็เดินทางกลับบ้านทันที และนำทองไปเก็บไว้อย่างดี แม้แต่คนในบ้านยังไม่รู้เลยว่าตนเองเก็บสร้อยทองไว้ที่ไหน เป็นไปได้หรือไม่ว่าพนักงานอาจจะอาศัยช่วงที่คนเยอะ จึงสับเปลี่ยนสร้อยทองปลอมใส่กล่องให้ตนเอง ตนเองก็ไม่ได้สนใจอะไรรับเสร็จก็ใส่กระเป๋าเลย โดยไม่ได้ตรวจว่าใช่สร้อยทองที่ชั่งน้ำหนักหรือไม่ จากนั้นชุดสืบสวนได้พาผู้เสียหายไปที่ร้านทอง แต่ร้านทองปฏิเสธที่จะให้นักข่าวถ่ายภาพ บอกเพียงว่าพนักขายทองให้ผู้เสียหายได้ออกไปนานแล้วทั้งที่ยังไม่ผ่านโปรการทำงาน ขณะร้านค้าที่อยู่ใกล้กับร้านทองดังกล่าวได้มากระซิบผู้เสียหายว่าครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.ศรีราชาจะได้รวบรวมข้อมูลและจะขอเช็คกล้องวงจรย้อนหลัง แต่หาแนวทางในการสวนสวนเพื่อคลี่คลายคดีนี้ต่อไป.