เป็นเหตุการณ์ที่ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก จากกรณีที่หนุ่มพลเมืองดี นายทิพกร ทองขาว อายุ 30 ปี พนักงานส่งน้ำของโรงงานผลิตน้ำดื่มแห่งหนึ่งใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ถูกไล่ออกจากงาน หลังเจ้าตัวใช้เวลางานไปให้ปากคำคดีที่ช่วยเหลือเด็กสาว อายุ 15 ปี ให้รอดพ้นจากการถูกตาแท้ๆ ลวงไปข่มขืนในป่า ตามที่มีรายงานไปแล้วนั้น
ล่าสุด (4 ธ.ค. 61) เถ้าแก่เจ้าของโรงงานดังกล่าว เปิดเผยว่า สาเหตุที่แท้จริงในการไล่ นายทิพกร ทองขาว ออกจากงานนั้น ไม่ใช่เพราะความไม่พอใจที่เสียเวลางานไปกับการให้ปากคำหรือเรื่องคดีที่ช่วยเหลือเหยื่อข่มขืนตามที่มีกระแสข่าว แต่สาเหตุที่จริงเป็นเพราะนายทิพกร เอารถส่งน้ำของโรงงานไปใช้ส่วนตัว ซึ่งตนเองและภรรยาชื่นชมนายทิพกร ด้วยซ้ำที่เป็นคนดี ให้การช่วยเหลือสาวจนรอดถูกข่มขืนได้
ทั้งนี้ นายทิพกร ได้ขอเอารถส่งน้ำคันใหม่ไปใช้ อ้างว่ารถคันเก่ากระจกแตกตนเองก็ยินดีให้รถไป ซึ่งวันเกิดเหตุที่เข้าช่วยเหลือหญิงสาวทำให้ไม่สามารถส่งน้ำลูกค้าได้ทัน ค้างอยู่ 50 เจ้า และก่อนไปส่งน้ำ ตนเองก็อนุญาตให้นายทิพกร ไปให้ปากคำตำรวจก่อนไปส่งน้ำด้วย ให้ปากคำเสร็จบ่าย 2 แต่นายทิพกร นำรถมาคืนตอน 4 ทุ่ม ทั้งที่จริงๆ แล้วการขับรถไปส่งน้ำให้ครบนั้นใช้เวลาไม่นาน ราว 1 ชั่วโมง ก็เสร็จ จึงเป็นต้นเหตุให้ภรรยาตนเองไม่พอใจอย่างมาก จึงไล่นายทิพกร ออก เพราะในวันนั้นจำเป็นที่จะต้องใช้รถเพื่อไปย้ายหอให้ลูกสาว แต่ไม่สามารถทำได้ เพราะไม่มีรถ
เถ้าแก่เจ้าของโรงงาน กล่าวอีกว่า ตนเองอยากให้สังคมเข้าใจด้วย เพราะตอนนี้ตกเป็นจำเลยของสังคมไปแล้ว ซึ่งตนเองก็ไม่ได้อยากที่จะไล่นายทิพกร ออก แต่ภรรยาโมโหมากจึงตัดสินใจแบบนั้นลงไป เพราะที่จริงแล้วก็ได้มีการวางแผนเอาไว้ว่าในอนาคตจะซื้อรถและเซ้งน้ำให้นายทิพกร มีกิจการส่งน้ำเป็นของตัวเองเพื่อได้สร้างตัว นายทิพกรเองก็รู้เรื่องนี้
หลังมีกระแสข่าวนายทิพกร ถูกไล่ออก ก็ได้มีผู้ติดต่อให้การช่วยเหลือนายทิพกร จำนวนมากจากทั่วประเทศ ทั้งจะซื้อมือถือให้ ให้งานทำ รวมถึง ดร.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ประธานองค์กรทำดี ได้มอบเงินช่วยเหลือ 10,000 บาท และพร้อมที่จะหางานทำให้ที่จ.นครศรีธรรมราช และบางธนาคารก็ติดต่อจะช่วยเหลือเช่นกัน