เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

 

วันที่ 28 พ.ย. 61 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ได้จับกุม นายทวิพงษ์ พูนสังข์ หรือติ๊ก อายุ 37 ปี และ นายสุวิน นุชสาย หรือน็อต อายุ 25 ปี ชาวบ้านน้ำใส ต.อิสาณ อ.เฉลิมพระเกียรติ หลังจาก น.ส.เมย์ (นามสมมติ) อายุ 22 ปี ได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ศักดิ์ชาย กิตติอุดมพันธ์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เฉลิมพระเกียรติ ว่าผู้ต้องหาทั้งสองได้บังคับข่มขืน ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี น้องสาวของตัวเองซึ่งป่วยเป็นออทิสติก เหตุเกิดตั้งแต่ช่วงกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดย นายสุวิน หรือน๊อต ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุเป็นน้าชายแท้ๆ ของ ด.ญ.เอ ส่วน นายทวิพงษ์ หรือติ๊ก เป็นเพื่อนบ้าน

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายทวิพงษ์ หรือติ๊ก ยอมรับสารภาพว่าได้ลงมือก่อเหตุข่มขืน ด.ญ.เอ จริง ทั้งหมด จำนวน 3 ครั้ง โดยอ้างว่าที่ก่อเหตุเพราะความเมาจึงเกิดอารมณ์ทางเพศ ส่วน นายสุวิน เปี่ยวข้องกับผู้เสียหายเป็นน้าชายแท้ๆ ยังคงฟให้การปฏิเสธ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัว นายทวิพงษ์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ยังที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านของผู้ต้องหาเอง ส่วน นายสุวิน ที่ยังให้การปฏิเสธอยู่ ฟได้ควบคุมตัวไว้ก่อนเพื่อรอเนินคดีตามกฎหมาย เนื่องจากเจ้าหน้าที่มั่นใจในพยานหลักฐาน ประกอบกับ นายทวิพงษ์ ก็ให้การซัดทอดว่า นายสุวิน เคยเล่าให้ตนเองฟังว่าเคยลงมือข่มขืน ด.ญ.เอ หลานของตัวเองจริง

จากการสอบถาม ด.ญ.เอ ผู้เสียหาย เล่าว่า ครั้งแรกที่ถูก นายสุวิน น้าชายข่มขืนกระทำชำเรา คือช่วงกลางเดือนสิงหาคม โดยวันเกิดเหตุมี นายสุวิน อยู่บ้านคนเดียว พ่อไปทำงานต่างจังหวัด ส่วนยาย พี่ชาย และพี่สาว ย้ายหนีไปอยู่บ้านญาติอีกหมู่บ้านหนึ่ง เนื่องจากกลัว นายสุวิน จะทำร้ายเพราะติดยาเสพติด และชอบอาละวาด แต่ขณะที่ตนเองกลับมาเอารองเท้าที่บ้าน นายสุวิน ก็ใช้มีดจี้ที่เอวแล้วบังคับให้เดินเข้าไปในห้อง พร้อมบังคับให้ถอดเสื้อผ้าแล้วลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ ด้วยความกลัวจึงไม่กล้าขัดขืนและไม่กล้าไปบอกใคร

จากนั้นช่วงกลางเดือนตุลาคม ตนปั่นจักรยานไปเล่นในหมู่บ้านตามปกติ แต่ขณะปั่นผ่านหน้าบ้านนายทวิพงษ์ ก็ออกมายืนขวางรถจักรยาน แล้วบังคับให้เข้าไปในบ้าน แล้วใช้กำลังบังคับข่มขืน หลังข่มขืนเสร็จ นายทวิพงษ์ ก็ให้เงิน 200 บาท ก่อนที่ตนจะปั่นจักรยานกลับบ้าน แต่ไม่กล้านำเรื่องไปบอกใครเพราะกลัวจะถูกทำร้าย กระทั่งพี่สาวมาเค้นถามเมื่อสองวันก่อนจึงตัดสินใจบอกความจริง

ด้าน น.ส.เมย์ พี่สาวผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 25 พ.ย. ที่ผ่านมา เห็นน้องสาวมีอาการผิดปกติ จึงถามน้องว่าเกิดอะไรขึ้น จนน้องสาวยอมเล่าให้ฟังว่าถูก นายสุวิน ซึ่งเป็นน้าชายแท้ๆ ใช้มีดจี้บังคับข่มขืนขณะน้องกลับมาเอารองเท้าที่บ้าน และได้ถูก นายทวิพงษ์ เพื่อนบ้านใช้กำลังข่มขืนอีกหลายครั้ง ก็รู้สึกตกใจมากเพราะไม่คิดว่า นายสุวิน ซึ่งเป็นน้าชายแท้ๆ ที่อาศัยในบ้านและกินข้าวหม้อเดียวกัน จะทำกับน้องสาวที่ป่วยเป็นออทิสติกได้ลงคอ ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ต้องหาทั้งสองให้ถึงที่สุด

ขณะที่ นายบุญเพ็ง ผู้เป็นพ่อบอกว่า รู้สึกเสียใจมากไม่คิดว่าคนในครอบครัวเดียวกันและเพื่อนบ้านใกล้ชิด จะมาทำกับลูกสาวของตนเองที่ป่วยเป็นออทิสติกได้ลงคอ หัวอกคนเป็นพ่อรับไม่ได้ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายผู้ต้องหาทั้งสองให้ถึงที่สุด ซึ่งที่ผ่านมา ครอบครัวก็เอือมระอากับพฤติกรรมของ นายสุวิน มาตลอด เพราะนอกจากจะไม่ทำงานแล้วยังติดยาเสพติด แล้วเกิดอาการคลุ้มคลั่งอาละวาดคนในบ้าน ทั้งยังทำร้ายร่างกายภรรยาตนเองหลายครั้ง จนต้องให้ยายและลูกๆ ย้ายไปอยู่บ้านญาติเพื่อความปลอดภัย ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการแจ้งตำรวจจับดำเนินคดีแล้วหลายครั้ง แต่พอออกมาก็มีพฤติกรรมเดิมๆ ซ้ำอีกไม่เข็ดหลาบ และล่าสุดตอนที่เจ้าหน้าที่มาจับกุม นายสุวิน ที่ก่อเหตุข่มขืนลูกสาว ยังขู่อาฆาตว่าหากพ้นโทษออกมาจะฆ่าให้ตายทั้งบ้าน ซึ่งครอบครัวก็กลัวจะไม่ปลอดภัย

ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองไว้ดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยเบื้องต้นได้แจ้งข้อหา “พราก พา เด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครอง, กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี ซึ่งมิใช่ภรรยาของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม”