ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พาครอบครัวสาวถูกสาดน้ำกรดเข้าพบตัวแทนกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำเนินคดีและปิดโรงพยาบาลที่ปฏิเสธการรักษา ขณะที่ญาติของผู้เสียชีวิตยืนยัน แม้คนร้ายและพยาบาลจะมาขอขมาก็ไม่อยากยกโทษให้ เพราะโหดเหี้ยมมากเกินไป…
นายอัจฉริยะ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมครอบครัว น.ส.ช่อลัดดา ทาระวัน อายุ 38 ปี ที่เสียชีวิตจากการถูกแฟนหนุ่มสาดและกรอกน้ำกรดใส่ปาก เดินทางมายังสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือ สบส. , นายกแพทยสภา และสภาการพยาบาล เพื่อให้ดำเนินคดีและเอาผิดกับสถานพยาบาล แพทย์ และพยาบาลที่อยู่ในเหตุการณ์ โดยมี นพ.ประภาส จิตตาศิรินุวัตร รองอธิบดีกรม สบส. ได้รับหนังสือร้องเรียน หลังโรงพยาบาลปัดความรับผิดชอบและไม่ชี้แจงอย่างตรงไปตรงมา
ด้าน นพ.ประภาส บอกว่า กรมฯ พร้อมตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้น ซึ่งตามปกติแล้ว หากแพทย์วินิจฉัยว่า คนไข้ไม่เข้าข่ายฉุกเฉินจะต้องส่งต่อคนไข้ตามขั้นตอนที่เหมาะสม ซึ่งแต่ละโรงพยาบาลอาจแตกต่างกันไป แต่ยอมรับว่า ทางโรงพยาบาลต้องแจ้งสิทธิการรักษาให้กับผู้ป่วยและญาติทราบว่า สามารถรักษาที่โรงพยาบาลนอกสิทธิประกันสังคมได้ โดยมีค่าใช้จ่ายส่วนต่างๆ
ด้านนางทองอาด ทาระวัน อายุ 59 ปี แม่ผู้เสียชีวิต บอกว่า สิ่งที่ติดใจมากที่สุดคือ คนร้ายที่ก่อเหตุกรอกน้ำกรดใส่ปากและสาดน้ำกรดใส่หน้าลูกสาวจนเสียชีวิต แม้จะมาขอขมาก็ไม่อยากยกโทษให้ รวมถึงพยาบาลที่เป็นผู้รับเคสของลูกสาวด้วย เพราะรู้สึกว่าโหดเหี้ยมเกินไป
ขณะที่บ่ายวันนี้ นายอัจฉริยะจะเดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียนต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ดำเนินคดีตามมาตรา 36 พ.ร.บ. สถานพยาบาลปี 2541 กับโรงพยาบาล แพทย์ และพยาบาลที่อยู่ในเหตุการณ์เพิ่มเติมด้วย รวมถึงจะให้กรมสรรพากรตรวจสอบการเสียภาษีของโรงพยาบาลย่านพระราม 2 ด้วย
ครอบครัวของผู้เสียชีวิต จะเดินทางไปรับศพ น.ส.ช่อลัดดา ที่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อนำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนา ที่วัดแสงธรรมรังสี หมู่บ้านแสงอรุณ ต.โนนทอง อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่นต่อไป.