เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

หนี20ปีชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร เด็กหนุ่มมุ่งมั่นตั้งใจเรียนเพื่อตำรวจตามจับฆาตกรที่ฆ่าพ่อของตน

คนร้ายหนีคดีฆ่าคนตายเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว อีกไม่ถึงเดือน คดีจะหมดอายุความ แต่ถูกรวบตัวก่อน โดยตำรวจ 1 ในทีมจับกุม เป็นลูกของผู้ตาย

วันที่ 5 พ.ย. 61 พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้กำกับการ 5 กองปราบปราม (ผกก.5 บก.ป.) ได้เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้าย ตามหมายจับของศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ 786/2551 ลงวันที่ 22 ก.ย.2551 ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ฯลฯ โดยคนร้ายคือ นายบุญฤทธิ์ อายุ 54 ปี ถูกจับกุมได้ที่หมู่บ้านใน ม.2 ต.สองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร

ปี2541

เหตุการณ์ฆาตกรรมครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งในคดีสุดสะเทือนขวัญ ปี 2541 โดยเมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคม เจ้าหน้าที่ได้พบผู้เสียชีวิต 2 ศพ ในสระน้ำริมทาง ที่บ้านท่าตะเภา ต.ท่าข้าม อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี

สภาพศพถูกมัดมือไพล่หลัง มีถุงพลาสติกคลุมศีรษะ และใช้มีดปาดคอ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะทราบชื่อผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายในเวลาต่อมา คือ นายประสิทธิ์ แซ่อื้อ พ่อของ ส.ต.ต.อัษฏาวุฒิ มากประดิษฐ์ และ นายชาณี ทองหญีต

แต่กว่า นางรัชนี ภรรยาของนายประสิทธิ์ จะทราบว่าสามีเสียชีวิต ก็อีกกว่า 2 สัปดาห์ต่อมา หลังจากญาตินำหนังสือพิมพ์ให้ดู โดยขณะนั้น ส.ต.ต.อัษฏาวุฒิ มีอายุเพียง 1 ขวบ 5 เดือน

ปี2551

อีกเกือบ 10 ปีต่อมา ในปี 2551 ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ออกหมายจับ ที่ 786/2551 ลงวันที่ 22 ก.ย.2551 ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนฯ และข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ฯ กับผู้ต้องหา 3 ราย ก่อนรวบตัวได้ 2 ราย ส่วน นายบุญฤทธิ์ ครุฑละออง ได้หลบหนีการจับกุมออกนอกพื้นที่

ระหว่างนั้น ส.ต.ต.อัษฏาวุฒิ มักจะถามแม่อยู่บ่อยครั้งว่า พ่อหายไปไหน พ่อเสียชีวิตจากสาเหตุใด แต่ด้วยความที่นางรัชนีเห็นว่าลูกยังเด็กเกินไปที่จะรับรู้ความจริงอันโหดร้าย เธอจึงหลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถาม กระทั่งเมื่อ ส.ต.ต.อัษฏาวุฒิ เข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ก็ยังคงถามหาพ่ออยู่เสมอ เธอจึงตัดสินใจเล่าความจริงให้ลูกได้รับรู้ พร้อมบอกกับเขาว่า ความใฝ่ฝันของพ่อ คืออยากให้ลูกได้เป็นตำรวจ

ส่วน นายสายสิริ ผู้เป็นตา ก็เล่าว่า เมื่อตอนยังเด็ก หลานถามถึงสาเหตุการเสียชีวิตของพ่อหลายครั้ง แต่ตนก็ไม่ได้บอก ไม่อยากรื้อฟื้น เพราะเรื่องผ่านมานานแล้ว แต่สิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนในตัวหลานคนนี้ก็คือ ความมุ่งมั่นที่จะเป็นตำรวจให้ได้

ปี2560

หลังจากจบการศึกษาชั้นมัธยมปลาย เมื่อปี 2560 ส.ต.ต.อัษฏาวุฒิ ก็สอบเข้าศึกษาที่โรงเรียนตำรวจภูธร 8 และสามารถสอบได้เป็นนักเรียนนายสิบ ก่อนสำเร็จการศึกษาเมื่อวันที่ 30 กุมภาพันธ์ 2561 แล้วได้รับการบรรจุที่ตำรวจภูธรภาค 8 ในตำแหน่งผู้บังคับหมู่กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ

ส.ต.ต.อัษฏาวุฒิ ได้เปิดใจถึงการเข้ามาเป็นตำรวจว่า เป็นเพราะใจรัก ประกอบกับเป็นความต้องการของพ่อ ไม่ได้เจาะจงมาจับคนร้ายฆ่าพ่อ เพราะเคยเข้าใจว่าคนร้ายถูกจับไปหมดแล้ว ก่อนมาทราบภายหลังว่า ยังมีผู้ต้องหาอีกหนึ่งรายที่ยังลอยนวล

ปี2561

ต่อมา ส.ต.ต.อัษฏาวุฒิ ก็ได้สืบเสาะจนทราบว่า ผู้ต้องหาที่ยังไม่ถูกจับกุม เป็นคนในพื้นที่ใกล้เคียงกับบ้านตน ประกอบกับมีพฤติกรรมคุกคาม โดยมักขับขี่รถวนเวียนแถวบ้านพักของแม่ ที่ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ซึ่งในเรื่องนี้ นางรัชนีเล่าว่าผู้ต้องหาเคยเข้ามาข่มขู่ครอบครัวในเรื่องคดีความ ล่าสุดได้มาปรากฏตัวแถวบ้านพัก เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน หรือก่อนจะถูกจับกุม 2 วัน

ด้วยพฤติกรรมของผู้ต้องหา ที่มีแนวโน้มเป็นอันตรายกับครอบครัว ส.ต.ต.อัษฏาวุฒิ จึงได้ประสานกับกองปราบปราม ชุดสืบสวนในพื้นที่ และร่วมติดตามผู้ต้องหา จนสามารถจับกุมได้เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2561 ก่อนที่คดีดังกล่าวจะหมดอายุความในวันที่ 2 ธันวาคม 2561 ที่กำลังจะถึงนี้

โดยนางรัชนีเล่าว่า “ลูกชายได้โทรศัพท์มาบอกว่า จับคนร้ายที่ฆ่าพ่อได้แล้ว และยังบอกอีกว่า สงสารเขา เขาตัวเล็กนิดเดียว…”

ส่วน นายธนธร ลุงของ ส.ต.ต.อัษฏาวุฒิ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ดังคำโบราณที่ว่าไว้ กฎแห่งกรรม ใครทำอะไรไว้ กรรมนั้นก็จะตามสนอง ไม่ช้าก็เร็ว เหมือนกับผู้ต้องหารายนี้ ที่หลบหนีคดีมาได้เกือบ 20 ปี เหลืออีกไม่ถึงเดือนคดีก็จะหมดอายุความ แต่ก็ไม่รอด ถูกจับได้ในที่สุด

CR:sanook