เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Naazneen Binlee โพสต์คลิปขณะที่สาวซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกำลังถูกเจ้าหน้าที่ อส.หญิงคนหนึ่งตรวจค้นร่างกายอย่างละเอียดทั้งที่อยู่ริมถนนซึ่งเป็นที่สาธารณะ บริเวณมัสยิดควนหิน ต.พะวง อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา และในบริเวณที่เรียกตรวจก็มีเจ้าหน้าที่ผู้ชายยืนอยู่ไม่ไกล โดย อส.หญิงรายนี้ลูบคลำของสงวน ปลดกระดุมกางเกงค้นหาสิ่งต้องสงสัย ซึ่งขณะนั้นผู้โพสต์คลิปพูดขึ้นในทำนองว่า “ถ้ามีอะไรคงไม่ขับเข้าด่าน” จากนั้น อส.หญิง เปลี่ยนไปตรวจและลูบคลำหน้าอก

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ได้ชมคลิปได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นถึงการตรวจค้นในลักษณะเช่นนี้ว่าอาจสร้างความอับอายแก่ผู้ถูกตรวจ และถามถึงอำนาจหน้าที่ของ อส. ด้วยว่าแท้จริงแล้วทำได้ถึงขนาดนี้หรือไม่

ในส่วนของกฎหมาย นายนิติธร แก้วโต ทนายความ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ทนายเจมส์ เคยอธิบายถึงข้อกฎหมายว่า กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการค้นบุคคล หรือค้นสิ่งของ หรือค้นรถ ซึ่งอยู่ในครอบครองของบุคคลในที่สาธารณะนั้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 93 วางหลักไว้ว่า “ห้ามมิให้ทำการค้นบุคคลใดในที่สาธารณสถาน เว้นแต่ พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจเป็นผู้ค้นในเมื่อมีเหตุอันควรสงสัยว่าบุคคลนั้นมีสิ่งของในความครอบครอง เพื่อจะใช้ในการกระทำความผิด หรือซึ่งได้มาโดยการกระทำความผิดหรือซึ่งมีไว้เป็นความผิด”

เจ้าพนักงานจะอ้างว่ามีเหตุอันควรสงสัยอย่างอื่นแล้วมาขอค้นไม่ได้ หรือจะอ้างตนเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐแล้วมาขอค้น โดยไม่มีเหตุอันควรสงสัย ก็ไม่ได้เช่นกันครับ ท่านสามารถปฏิเสธไม่ให้ค้นได้ครับ อีกทั้งการค้นในที่รโหฐาน โดยไม่มีเหตุอันสมควร เจ้าพนักงานยังมีความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ด้วย และหากมีการทะเลาะวิวาทกันขึ้นมา ท่านสามารถอ้างป้องกันตัวได้ครับ เนื่องจากบุคคลย่อมมีสิทธิปกป้องสิทธิเสรีภาพของตัวเอง และไม่เป็นการต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน.