เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

กระทรวงศึกษาธิการประกาศกฎใหม่ ห้ามโรงเรียนให้นักเรียนที่ท้องออกจากสถานศึกษา แต่ให้ย้ายโรงเรียนได้ โดยกฎนี้จะเริ่มมีผลบังคับใช้หลังจากนี้อีก 6 เดือน หรือตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน 62 เป็นต้นไป  

วานนี้ (12 ต.ค.61) ราชกิจจานุเบกษาได้ลงประกาศ “กําหนดประเภทของสถานศึกษาและการดำเนินการการของสถานศึกษาในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2561” โดยเนื้อความตอนหนึ่งระบุว่า โรงเรียนระดับประถม มัธยม สถานศึกษาอาชีวศึกษา และมหาวิทยาลัย “ที่มีนักเรียนหรือนักศึกษาซึ่งตั้งครรภ์อยู่ในสถานศึกษา ต้องไม่ให้นักเรียนหรือนักศึกษานั้นออกจากสถานศึกษาดังกล่าว เว้นแต่เป็นการย้ายสถานศึกษา” 

โดยกฎดังกล่าวนี้ จะมีผลหลังจากนี้ 180 วัน (6 เดือน) นั่นแปลว่ากฎดังกล่าวนี้จะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนปีหน้าเป็นต้นไป ถือเป็นการเพิ่มรายละเอียดเพื่อปกป้องนักเรียนนักศึกษาที่ตั้งครรภ์ เพิ่มเติมจาก พ.ร.บ. การป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559 ที่ระบุไว้ใน มาตรา 6 (3) ว่า ให้สถานศึกษา “จัดให้มีระบบการดูแล ช่วยเหลือ และคุ้มครองนักเรียนหรือนักศึกษาซึ่งตั้งครรภ์ให้ได้รับ การศึกษาด้วยรูปแบบที่เหมาะสมและต่อเนื่อง” 

แต่เนื่องจากที่ผ่านมากฎหมายฉบับดังกล่าวยังไม่มีบทกำหนดโทษสถานศึกษาที่ไม่ปฏิบัติตาม ทำให้หลายครั้งเราเห็นปรากฏการณ์สถานศึกษาบีบบังคับให้นักเรียนที่ท้องเซ็นใบลาออกเอง โดยที่ยังไม่มีสถานศึกษาใหม่รองรับ กฎกระทรวงที่ออกมาใหม่นี้จึงเป็นอีกหนึ่งความพยายามที่ต้องการจะช่วยลดปัญหาการลาออกหรือถูกบีบให้ออกของกลุ่มนักเรียนนักศึกษาที่ตั้งครรภ์ดังกล่าว 

รายงานของ สสส. ระบุว่าวัยรุ่นไทยอายุต่ำกว่า 20 ปี คลอดบุตรปีละ 1.2 แสนคน โดยกว่า 30% ต้องหลุดออกไปจากระบบการศึกษาและไม่ได้กลับมาเรียนต่อ  

 

ข้อมูลจาก Workpoint news