เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

“ย้อนกลับไปราว 400 กว่าปี ท่ามกลางสายน้ำป่าสักที่ไหลเชี่ยว ทันใดพื้นน้ำหยุดนิ่ง พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์แสดงปาฏิหาริย์ผุดขึ้น บริเวณวังมะขามแฟบ เมื่อเวียนบรรจบครบรอบปี ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 ชาวบ้านจึงร่วมกันจัดงานประเพณีอุ้มพระดำน้ำขึ้น และปฏิบัติสืบเนื่องมาจนกระทั่งปัจจุบัน”

 

ตำนาน ความเชื่อบอกเล่าขานผ่านเรื่องราว ความศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกาลเวลาล่วงผ่านมากว่า 400 ปี ครั้งที่พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ได้ทรงมอบองค์พระพุทธมหาธรรมราชา ให้แก่พ่อขุนผาเมือง เมื่อคราวอภิเษกสมรสกับ พระนางสิงขรมหาเทวี แต่หลังจากพ่อขุนผาเมืองร่วมกับพ่อขุนบางกลางหาว ปลดแอกไม่ขึ้นต่อขอม ทำให้พระนางสิงขรมหาเทวี แค้นเคือง เผาเมืองราดและกระโดดแม่น้ำป่าสักฆ่าตัวตาย บรรดาชาวเมืองและขุนนางร่วมกันอัญเชิญองค์พระลงแพล่องไปตามแม่น้ำป่าสัก แต่ด้วยสายน้ำที่เชี่ยวกราก แพที่อัญเชิญองค์พระถูกกลืนไปตามกระแสน้ำ จนกระทั่งเกิดความมหัศจรรย์ขึ้น

เมื่อกลุ่มชาวประมงที่หาปลาในแม่น้ำป่าสัก บริเวณวังมะขามแฟบ ซึ่งตลอดทั้งวันไม่สามารถหาปลาได้เลย กลับพบเจอเหตุการณ์มหัศจรรย์ขึ้น แม่น้ำป่าสักที่ไหลเชี่ยวกราก เริ่มหยุดนิ่ง เกิดเป็นกระแสน้ำผุดคล้ายสีเลือด ดันองค์พระพุทธรูปลอยขึ้นมา จนชาวประมงต่างอัญเชิญขึ้นมาประดิษฐานไว้ที่วัดไตรภูมิ และเมื่อถึงวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 ของปีถัดมา องค์พระกลับมาปรากฏลอยอยู่ที่บริเวณวังมะขามแฟบอีกครั้ง ด้วยเหตุนี้ จึงมีประเพณีอุ้มพระดำน้ำปฏิบัติสืบต่อกันมาจนกระทั่งปัจจุบัน

  

วันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 เข้าสู่วันงาน เริ่มต้นพิธีกรรมบรวงสรวงเทพยดา เจริญพระพุทธมนต์อัญเชิญองค์พระพุทธมหาธรรมราชาที่ประดิษฐานอยู่ที่วัดไตรภูมิ แห่ทางบก และลงเรือแห่ทางน้ำ เรื่อยมาจนถึงบริเวณวังมะขามแฟบ ท่าน้ำวัดโบสถ์ชนะมาร สองฝั่งน้ำประชาชนต่างเข้าร่วมพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้อัญเชิญ อุ้มองค์พระลงสรงน้ำ อุ้มหันพระเนตรขึ้นเหนือน้ำ 3 ครั้ง หันพระเนตรลงใต้น้ำ 3 ครั้ง นับเป็นการเสี่ยงทาย ช่วยสร้างสิริมงคล ทำให้บ้านเมืองปกติสุข มีความอุดมสมบูรณ์ ประชาชนอยู่อย่างร่มเย็นตลอดปีนั้นๆ