ชาวพะเยาเดือนร้อนหนัก น้ำหลากเข้าท่วม 30 หมู่บ้าน ล่าสุดในพื้นที่ยังมีฝนตกหลัก ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา สั่งทุกภาคส่วนระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วนที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพะเยา ปริมาณน้ำจากลำน้ำควร และลำน้ำงิม ในพื้นที่อำเภอปง จังหวัดพะเยา เริ่มไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตรของพื้นที่ 6 หมู่บ้าน ซึ่งประกอบด้วยตำบลงิม ตำบลออย ตำปลปง ตำบลนาปรัง ตำบลควร และตำบลขุนควร อำเภอปง จังหวัดพะเยา กว่า 30 หมู่บ้าน และทำให้พื้นที่ทางการเกษตรกว่า 2,500 ไร่ ถูกน้ำเข้าไหลบ่าเข้าท่วมได้รับความเสียหาย เนื่องจากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “เบบินคา” ทำให้ในพื้นที่จังหวัดพะเยาฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง
นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งเข้าช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัย และเฝ้าระวังสถานการณ์ ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเบื้องต้นให้นายสิทธิ์ วงศ์ม่าน นายอำเภอปง เข้าตรวจพื้นที่และได้ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกฝ่ายให้ความช่วยเหลือชาวบ้านในการขนย้ายสิ่งของไว้ที่สูง และประกาศเตือนให้ชาวบ้านในชุมชนเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำเนื่องจากปริมาณน้ำทั้งสองสายได้ไหลเข้ามาบรรจบต้นน้ำยม มีระดับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดน้ำท่วมถนน รถทุกประเภทไม่สามารถผ่านได้ จำนวนหลายเส้นทาง ประกอบด้วย 1.ถนนหน้าไปรษณีย์ปง, 2.ถนนบ้านบ้านดอนเงิน-บ้านหลวง ต.ออย, 3.สะพานบ้านยืน-บ้านเหล่า(สะพานนต้นน้ำยม), 4.บ้านห้วยขุ่น-บ้านาอ้อม ต.ขุนควร, 5.บ้านสบเกี๋ยง ต.ขุนควร-บ้านวังบง ต.ควร, 6.บ้านดอนชัย-บ้านบอน ต.ปง, และ 7.สะพานน้ำยมหลังที่ว่าการอำเภอ-บ้านบุญเรือง ขณะที่ลำน้ำร่องช้างในอำเภอดอกคำใต้ ร่วมถึงลำน้ำแม่ต๋ำใน อำเภอเมืองพะเยา และอีกหลายจุด ระดับน้ำได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ต้องประกาศประชาสัมพันธ์เสียงตามสายให้ประชาชนเร่งขนทรัพย์สิน สัตว์เลี้ยง ขึ้นที่สูง เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นในขณะนี้
กรมอุตุนิยมวิทยาระบุอิทธิพลของพายุโซนร้อนเบบินคา ซึ่งมีแนวโน้มอ่อนกำลังลงเป็นดีเปรสชัน ศูนย์กลางอยู่บริเวณประเทศลาว ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักและมีน้ำท่วมในหลายพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะ จ.น่าน เชียงราย เชียงใหม่ คาดว่า ระหว่างวันที่ 18-19 ส.ค.นี้ จะยังคงมีตกหนักในพื้นที่ดังกล่าว และพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง ขอให้ติดตามพยากรณ์อากาศและคำเตือนเป็นระยะ
