เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จากคดีกลุ่มคนร้ายบุกยิง “น.ส.ปวีณา” หรือ “สปาย นาเมืองรักษ์” อายุ 20 ปี และ “นายอนันตชัย” หรือ “ฟอส จริตรัมย์” อายุ 21 ปี เสียชีวิตบริเวณลานจอดรถถนนฝั่งตรงข้าม หน้าพระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ ม.6 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 29 ก.ค.

ต่อมาเจ้าหน้าที่จับกุมกลุ่มคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุได้ยกทีมรวม 5 ราย คือ “นายสายันต์ ศรีสุข” อายุ 43 ปี คนชี้เป้า “นายเกียรติศักดิ์” หรือ “เจมส์บอนด์ สุรางค์แสงมีบุญ” อายุ 35 ปี คนขับรถซีอาร์-วี “นายจิรศักดิ์” หรือ “ป๊อปปี้ อุนัยบัน” อายุ 34 ปี ทำหน้าที่ขับรถยนต์โตโยต้า ยาริส ที่เช่ามา ตามประกบกลุ่มคนตายและเป็นทีมคุ้มกัน “นายกฤษณะ” หรือ “มด ศรีสุข” อายุ 22 ปี ทีมคุ้มกัน และ “นายณรงค์” หรือ “บ่าว วรินทรเวช” อายุ 22 ปี มือปืน โดย 2 รายหลังติดต่อขอมอบตัว เพราะกลัวถูกเจ้าหน้าที่จับตายเหลือเพียงนายปัญญาหัวหน้าแก๊งที่ยังหลบหนีอยู่ ตามข่าวที่เสนอไปแล้ว

ล่าสุดความคืบหน้าคดีสังหารโหด 2 ศพต่อหน้าพระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ เมื่อวันที่ 15 ส.ค. รายงานข่าวระดับสูงในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่กัมพูชาสามารถติดตามจับกุม “นายปัญญา ยิ่งดัง” หรือ “เสี่ยอ้วน บางลา” ได้แล้ว ขณะหลบซ่อนตัวบริเวณชายแดนด้านตะวันออกของประเทศกัมพูชา เพื่อตรียมข้ามแดนหลบหนีไปประเทศเวียดนาม เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างประสานงานทางการประเทศกัมพูชา ขอนำตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย โดยผ่านด่านชายแดน จ.สระแก้ว

วันเดียวกันที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) “พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา” (ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชา สามารถติดตามจับกุม “นายปัญญา ยิ่งดัง” หรือ เสี่ยอ้วน ผู้ต้องหาบงการฆ่า “น้องฟอส-สปาย” ที่เขาชีจรรย์ จ.ชลบุรี ได้แล้ว ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยอยู่ระหว่างรับตัวนายปัญญากลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย เป็นไปตามที่เคยบอกไปก่อนหน้านี้ว่านายปัญญามีสองทางให้เลือก คือทางตายกับทางตัน โดยจะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 17 ส.ค. เวลาประมาณ 13.00 น. เนื่องจาก วันที่ 16 ส.ค. ต้องไปปฏิบัติภารกิจที่ภาคอีสาน

ด้าน “พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์” จเรตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานว่าทางการประเทศกัมพูชา สามารถควบคุมตัวนายปัญญาไว้ได้แล้ว เจ้าหน้าที่กัมพูชาควบคุม ตัวกลับมาส่งให้ทางการไทย แต่ระยะทางจากจุดที่จับตัวซึ่งอยู่ริมชายแดนประเทศกัมพูชาด้านประเทศเวียดนามมีระยะทางค่อนข้างไกล

“พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์” ผกก.ตม. จว.สระแก้ว ยืนยันว่าทางการกัมพูชา จับตัวเสี่ยอ้วนแล้วจริงโดยวันที่ 16 ส.ค. เจ้าหน้าที่กัมพูชาจะนำควบตัวนายปัญญาส่งไปที่ กรุงพนมเปญ และ “พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์” จเรตำรวจแห่งชาติ จะเดินทางไปประสานงานรับตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย

วันเดียวกัน “นางวันเพ็ญ นาเมืองรักษ์” มารดาของ “น.ส.ปวีณา” หนึ่งในผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจและชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติหน้าไม่ขออโหสิกรรมให้ “นายปัญญา” และไม่ต้องการที่จะให้มาขอขมาแต่อย่างใด เพราะครอบครัวเจ็บช้ำกับการกระทำของนายปัญญาเกินที่จะให้อภัย เพราะครอบครัวเป็นฝ่ายเสียเปรียบเป็นหญิง แต่เมื่อตำรวจจับตัวได้รู้สึกดีใจและเป็นข่าวดีและขอให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุดและรับโทษประหารชีวิตด้วย

ขณะที่ “นางจอมศรี ชมพูพื้น” มารดาของนายอนันตชัยผู้เสียชีวิตอีกรายในเหตุการณ์เดียวกันกล่าวว่า หลังได้ข่าวรู้สึกดีใจมาก ครอบครัวนอนไม่หลับเลย ขอชื่นชมตำรวจไทยมีฝีมือและเก่งมาก ในส่วนตัวนั้นไม่ขอจองเวรกรรมอะไร ขออโหสิกรรมกับการ กระทำของนายปัญญา เพราะเชื่อว่าจะต้องได้รับผลกรรมที่รุนแรงเช่นเดียวกับลูกของตน หากเป็นไปได้ต้องการให้มาขอขมา ส่วนจะมาได้หรือไม่ก็สุดแล้วแต่ และขอให้เป็นอุทาหรณ์สอนใจจากเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย