เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันที่ 15 ส.ค.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.พร้อมคณะ เดินทางจากท่าเรือสะพานตากสิน-เพชรเกษม มายังวัดกำแพงบางจาก ทันทีที่เดินทางถึงได้โบกมือทักทายประชาชนที่มาต้อนรับ จากนั้นได้เข้ากราบสักการะพระประธานในโบสถ์และนมัสการพระครูศรีปริยัตตยะนุรักษ์ เจ้าอาวาสวัดกำแพงบางจาก

จากนั้นนายกฯได้มาพบกับประชาชนที่มาต้อนรับกว่า 200 คนว่า มาเยี่ยม ไม่ได้อยากสร้างภาระให้กับประชาชน มาดูปัญหาจรากรุงเทพฯและดูปริมณฑล ต่างจังหวัดด้วย ต้องให้เชื่อมโยง ต้องมีให้เขา จากที่เราไม่ให้เขาก่อนนี้ ที่ผ่านมาไม่ค่อยทำตรงนี้ แต่ทำเป็นเรื่องๆไป ปัญหา ส่วนการเลือกตั้งก็ว่ากันมา เรายังไม่เกี่ยวข้องตรงโน้น ถามว่าส่ิงที่รัฐบาลทำมาถูกทางแล้วหรือไม่ ถ้าถูกก็ไปบังคับหน้าให้ทำตรงโน้น แต่วันนี้ไม่ต้องบังคับเราก็ทำให้ อย่างโครงสร้างพื้นฐานที่ต้องใช้เวลาทั้งสิ้น แต่ต้องใช้เวลาเพราะระบบใหญ่โต

 

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ใครที่เป็นหนี้นอกระบบแจ้งศูนย์ดำรงธรรม เขาจะประนอมหนี้เก็บดอกเบี้ยเกิน 30 เปอร์เซ็นต์ไม่ได้ เป็นเรื่องรัฐบาลแก้จริงจัง ปัญหาที่ดินทำกิน เรื่องโครงสร้างพื้นฐานหลายคนอาจมองภารรัฐบาลมากไปหรือเปล่า มีโรงไฟฟ้าหลายสาย จากก่อนที่ไม่มีมา ไม่รู้ไปทำอะไรกันอยู่ รุรถไฟความเร็วสูงทำไม่ได้หวังผลกำไร แต่ทำเพื่อให้เกิดการพัฒนาสองข้างทาง ทำเพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางอาเซียน แต่ปัญหาอุปสรรคคือคนของเราไม่ค่อยเข้าใจ พูดจาให้เกิดเสียหายตลอด

ส่วนรื่องการก่อสร้าง ถนนหนทางต้องดูติดปัญหาตรงไหน ต้องทำผังเมืองทำหมด เวลาทำผังเมืองถ้าจะเอาแบบเดิมก็เป็นอุปสรรค ไม่ได้ต้องการไปยึดที่ใคร เสียสละกันได้ก็ขอเสียสละกัน ไม่อย่างนั้นปัญหาก็เกิดอยู่อย่างนี้ ต้องมีได้บ้างเสียบ้าง แต่รัฐบาลเยียวยาให้ ถ้าเป็นอย่างนี้มีถนนเดิมๆมากี่สิบปีมาแล้ว นี้คือส่ิงที่ต้องการให้เกิด 20 ปีข้างหน้า ต้อง เร่ิมแต่วันนี้ และเมื่อมีการลงทุนจะมีการแบ่งปันผลประโยชน์ให้ด้วย นอกจากให้เรื่องของราคาที่ดิน ส่วนเรื่องการแก้ปัญหาขยะทุกพื้นที่ท้องถิ่นต้องกำกัดขยะเอง เอาไปทิ้งพื้นที่อื่นไม่ได้ จึงมีการแก้กฎหมายผังเมืองให้สามารถสร้างโรงงานกำจัดขยะได้ ดังนั้นขอมีภูมิต้านทานเสพสื่อด้วย บางทีเขียนไม่รู้ข้อเท็จจริง แต่นายกฯต้องรู้ทั้งหมดไม่อยากนั้นติดสินใจไม่ได้ เพื่อส่งต่อรัฐบาลต่อไป ซึ่งเป็นใครไม่รู้อยู่ที่ประชาชนเลือก ดูนโยบายให้ดีด้วย

 

 

จากนั้นนายกฯ ได้ถามเด็กนักเรียนที่มาต้อนรับว่า โตขึ้นอยากเป็นอะไร การเรียนต้องรู้อนาคตประเทศต้องการอะไร ต้องตั้งไว้อาชีพ เพื่อไม่ตกม้าตายในอนาคต ต้องเรียนรู้มีอาชีพอื่น หาพรสวรรค์ให้เจอ ตนตั้งใจแต่เด็กอยากเป็นนายร้อย แต่เป็นนายกฯไม่เคยตั้งใจ แต่ก็เป็น และจะขอทำให้เป็นประชาธิปไตยยั่งยืนให้ได้วันหน้า

“วันนี้มีผู้ว่าฯกทม. รองผู้ว่าฯ กทม.ปลัดมหาดไทย แม่ทัพภาค 1 มา ใครจะร้องเรียนก็มา วันนี้ทหารก็มา ใครถูกทหารรังแก ใครที่อ้างนายกฯ รองนายกฯ ให้มาเก็บผลประโยชน์ขอให้รมาบอก จะเล่นงานสักทีเถอะ และอย่าไปเชื่อเขา นายกฯจะไปเอาอะไรกับพวกเรา มีแต่ทำให้ดีขึ้น ขออย่าออกมาเดินขบวนกันอีก ยังไม่ลืมใช่ไหม บ้านเมืองเราต้องการความสงบสุข” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งระหว่างเยี่ยมชมโครงการบ้านศิลปิน ได้มีกลุ่มเพื่อนโรงเรียนวัดนวลนรดิศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ของพล.อ.ประยุทธ์ จำนวน 7 คน มารอพบ พร้อมระบุว่าพวกตนพักอาศัยอยู่แถวนี้ไม่ได้เจอนายกฯมาหลายสิบปี เห็นแต่เพียงในโทรทัศน์ พร้อมนำภาพถ่ายรูปหมู่สมัยมัธยมศึกษามาให้พล.อ.ประยุทธ์ดู ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวทักทายอย่างอารมณ์ดีว่า “จำได้ เพื่อนรุ่น 77 ไม่เคยลืม คิดถึงเพื่อนเสมอ”

จากนั้นนายกรัฐมนตรี เดินทักทายประชาชนและเยี่ยมชมโครงการฟื้นวิถีชีวิตชุมชนคลองบางหลวง ผ่านการท่องเที่ยวย่านประวัติศาสตร์กรุงธนบุรี โดยมีหุ่นละครเล็กหนุมาน และนางสุพรรณมัจฉาจากคณะคลองบางคำนาย มาต้อนรับพร้อมมอบพวงมาลัย และพาเยี่ยมโครงการ และชมการแสดงหุ่นละครเล็กผสมโขนตอน “หนุมานจับนางสุพรรณมัจฉา”