เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เมื่อวันที่ 2 ส.ค. เอพีรายงานว่า รัฐบาลจีนแถลงตอบโต้รัฐบาลนายโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา กรณีสั่งการให้ผู้แทนการค้ายกระดับมาตรการกำแพงภาษีต่อสินค้านำเข้าจากประเทศจีน จากเดิมที่ตั้งไว้ร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 25 รวมมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 6.6 ล้านล้านบาท นายหวัง อี้ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า การที่สหรัฐคิดขึ้นอัตราภาษีต่อสินค้าจีนนอกจากต่อต้านกระแสโลกาภิวัตน์แล้ว ยังจะทำร้ายภาคธุรกิจและผู้บริโภคของสหรัฐเอง

“ผมขอชี้ให้เห็นว่า ทุกวันนี้เราอยู่ในโลกที่เป็นโลกาภิวัตน์ เราไม่ได้อยู่ในยุคการค้าเหมือนศตวรรษที่ 19 แล้ว เมื่อสินค้าไหลจากประเทศหนึ่งไปยังอีกประเทศตามห่วงโซ่มูลค่าอุตสาหกรรมทั่วโลก การที่สหรัฐอเมริกาพยายามเอาภาษีไปสกัด ก็เท่ากับตั้งภาษีกับบริษัทของตัวท่านเอง”

 

 

กระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า วิธีการกดดันและดัดหลังของสหรัฐจะไม่มีวันใช้กับจีนได้ หากสหรัฐต้องการที่จะยกระดับสถานการณ์ให้รุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก จีนก็มีความพร้อมที่จะตอบโต้อย่างหนักแน่นเฉียบขาดบนพื้นฐานของประโยชน์และความชอบธรรมของจีนสงครามการค้าที่ก่อตัวขึ้นนี้สร้างความวิตกให้ประชาคมโลกว่าจะเป็นการยิ่งตอกย้ำความตึงเครียดระหว่างสองฝ่าย ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ อ้างว่าจีนเอาเปรียบทำให้สหรัฐขาดดุลการค้ากับจีนมหาศาล

นายโรเบิร์ต ไลต์ไฮเซอร์ ผู้แทนพาณิชย์ของสหรัฐ เปิดเผยว่า กำลังพิจารณาขอของรัฐบาลที่มุ่งตอบโต้ทางการจีนที่ไม่ยอมปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของสหรัฐ แต่จีนกลับโต้ตอบสหรัฐด้วยการตั้งกำแพงภาษีสินค้าสหรัฐ “ทางการสหรัฐระบุไว้ชัดเจนเสมอมาว่าจีนควรปรับเปลี่ยนสิ่งใดบ้าง แต่เป็นที่น่าเสียใจ เพราะแทนที่จีนจะปรับปรุงตัว กลับหันมาใช้มาตรการภาษีโต้ตอบชาวอเมริกัน”  ไลต์ไฮเซอร์ กล่าว