วันที่ 1 ส.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) “นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์” ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมด้วย “นายสุบิน ยาวิราช” พ่อของ “น.ส.นรีกานต์ ยาวิราช” หรือ “น้องหญิง” อายุ 19 ปี ที่ตกจากรถเทลเลอร์เสียชีวิตปริศนา เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา กับ “นายสุรพล ดาราคำ” หรือ อ๊อฟ คนขับรถเทลเลอร์ ที่อยู่กับผู้เสียชีวิตเป็นคนสุดท้าย
“นายอัจริยะ” กล่าวว่า หลังจากผลชันสูตรของแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ยืนยันว่า “น.ส.นรีกานต์” ถูกตีด้วยของแข็งไม่มีคมถึง 2 ครั้งก่อนเสียชีวิต แสดงถึงเจตนาฆ่าชัดเจน ตนจึงเดินทางมาแจ้งข้อหาเพิ่ม ส่วนจะแจ้งข้อหาอื่นเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ต้องรอผลตรวจการล่วงละเมิดทางเพศก่อน ซึ่งคาดว่าจะทราบผลภายใน 2 สัปดาห์ หลังจากเมื่อวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้ส่งศพไปตรวจที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เป็นรอบที่ 2
“นายอัจฉริยะ” กล่าวต่อว่า ส่วนค้อนที่พบในรถเทลเลอร์ ขณะนี้ยังรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อเชื่อมโยงว่าเป็นอาวุธที่ใช้ก่อเหตุหรือไม่ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ขณะเดียวกันชุดสืบสวนภูธรภาค 1 จะไปตรวจสถานที่เกิดเหตุอีกครั้ง โดยเฉพาะบริเวณบ่อน้ำเพื่อค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม เนื่องจากขณะที่ผู้เสียชีวิตถูกนำส่งโรงพยาบาล มีสภาพร่างกายเปียกน้ำ ซึ่งต้องสงสัยว่าจะเกี่ยวข้องกับบ่อน้ำหรือไม่
“นายอัจฉริยะ” กล่าวอีกว่า สำหรับประเด็นเรื่องการค้ามนุษย์ ทางตำรวจปราบปรามการค้ามนุษย์ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณเส้นทางที่เกิดเหตุ เบื้องต้นทราบว่า เป็นเส้นทางที่คนขับรถบรรทุกที่มาจากทางภาคเหนือมักจะมาจอดพัก และบางรายก็จะซื้อบริการในละแวกนั้น ซึ่งชุดสืบสวน ปคม. ก็จะรายงานกับ “พลต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล” รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในวันนี้
ด้าน “นายสุบิน” กล่าวว่า ตนพอใจที่สามารถรวบรวมพยานหลักฐาน และผลตรวจทางนิติวิทยาศาตร์จนสามารถนำมาแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาได้ เนื่องจากตั้งแต่แรกเชื่อว่า ลูกสาวไม่ได้กระโดดลงมาจากรถเทลเลอร์เอง แต่เชื่อว่าถูกทำร้ายจนเสียชีวิต ซึ่งหลังจากได้รับความเป็นธรรมแล้ว ก็จะนำศพไปบำเพ็ญกุศลตามพิธีทางศาสนาต่อไป