เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 19 กรกฎาคม 2561 ร.ต.ท.หญิงสิรินธร บุญโท พนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์ชนกันที่แยกบายพาสโรงไอติม ถนนสายศรีสะเกษ-ขุขันธ์ ตำบลหนองครก อำเภอเมืองศรีสะเกษ จึงได้รุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ ติดแครี่บอย สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน บร 67 ร้อยเอ็ด สภาพด้านหน้าฝั่งคนขับพังยับเยิน ห่างกันเล็กน้อยพบรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีขาว หมายเลขทะเบียน 6 กฬ 4928 กรุงเทพมหานคร ด้านท้ายถูกชนจนยุบเข้าไปพังเสียหาย พบ นางสาวศศิยาภรณ์ ยนจอหอ อายุ 24 ปี เจ้าของรถเก๋ง ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนคู่กรณีทราบเพียงว่าเป็นชายอายุประมาณ 25 ปี อาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไป จากการสอบสวน นางสาวศศิยาภรณ์ให้การว่า ขับรถมาตามเส้นทางดังกล่าวเพื่อกลับเข้าบ้านพัก ได้มีรถกระบะขับมาทางด้านหลัง พร้อมกับมีเสียงเบรกดังกึกก้องเพียงชั่วครู่ก็ชนเข้ากับท้ายรถของตน เมื่อลงมาจากรถเพื่อตรวจสอบความเสียหาย พร้อมกับหยิบโทรศัพท์มาถ่ายรูปรถเพื่อเป็นหลักฐาน คู่กรณีเป็นชายลงมาจากรถมีอาการลุกลี้ลุกลน จึงเข้าไปพูดคุยเพื่อเจรจาค่าเสียหาย แต่ชายคนดังกล่าวไม่พูดจาด้วย และอาศัยช่วงชุลมุนวิ่งหลบหนีไปขึ้นรถกระบะสีดำ และขับหนีไปอย่างรวดเร็ว

 เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภายในรถกระบะถึงกับอึ้ง เมื่อเจอไม้พะยูงซุกซ่อนอยู่ภายในรถ นับได้จำนวน 13 ท่อน ซึ่งได้ดัดแปลงรถ เพื่อให้ใส่บรรทุกไม้พะยูงได้สะดวกขึ้น นอกจากนี้บริเวณหน้าคนขับยังพบกระป๋องเบียร์อีกหนึ่งกระป๋อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกไว้เป็นหลักฐาน พร้อมเคลื่อนย้ายรถคันดังกล่าวมาไว้ที่ สภ.เมืองศรีสะเกษ และจะได้ตรวจสอบผู้ที่ครอบครองรถกระบะที่ขนไม้พะยูงมาทำการสอบสวน และเร่งติดตามตัวคนขับรถมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจ คาดว่า เป็นขบวนการลักลอบค้าไม้พะยูง ซึ่งกำลังขนย้ายเพื่อนำไปส่งนายทุน แต่ดวงซวยที่คนขับมาชนท้ายรถเก๋งเสียก่อน และรีบหลบหนีไปขึ้นรถอีกคัน ซึ่งน่าจะเป็นรถที่ขับนำหน้ามาเพื่อดูต้นทางให้สะดวกในการขนย้ายไม้พะยูงในครั้งนี้