เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันที่ 19 ก.ค. “นายสมศักดิ์ ดลประสิทธิ์” รองเลขาธิการสภาการศึกษา ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคุรุสภา กล่าวถึงกรณีที่ ธนาคารออมสินออกหนังสือเวียนถึงกรรมการผู้จัดการ และหัวหน้าสำนักงาน เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ให้ดำเนินการเร่งรัดในฟ้องคดีลูกหนี้สินเชื่อครู และบุคลากรทางการศึกษา ที่ไม่เข้าร่วมมาตรการผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้ ภายในเดือนส.ค.นี้ ว่า ขณะนี้ทางคุรุสภา ยังไม่สามารถดำเนินการเกี่ยวกับจรรยาบรรณทางวิชาชีพของครูกลุ่มนี้ได้ ทั้งนี้โดยหลักการ คุรุสภา จะเข้าไปดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ ก็ต่อเมื่อ 1 มีผู้ร้องเรียนเข้ามา และ 2.ปรากฏเป็นข่าวอย่างชัดเจน กรณีกลุ่มครูมหาสารคาม ออกปฏิญญา ขอให้รัฐบาลและธนาคารออมสินพักหนี้โครงการช.พ.ค. ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.61 เป็นต้นไป และ ลูกหนี้ ช.พ.ค. 4.5 แสนคน จะยุติการชำระหนี้กับธนาคารออมสินตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.61 นั้น แม้จะปราฎเป็นข่าว แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่า ไม่ชำระหนี้จริงหรือไม่ และธนาคารออมสิน ซึ่งเป็นผู้เสียหาย ไม่ได้มาร้องเรียน

“ดังนั้นคุรุสภาจึงยังไม่สามารถดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ สำหรับกรณีที่ธนาคารออมสิน เตรียมฟ้องผู้ที่ไม่ชำระหนี้นั้น กรณีถูกฟ้องล้มละลาย จะหมดสภาพความเป็นข้าราชการโดยอัตโนมัติ แต่หากอยู่ระหว่างถูกฟ้องร้อง และคดียังไม่ สิ้นสุด คุรุสภายังไม่สามารถดำเนินการใด ๆ ได้ ยกเว้นกรณีมีผู้มาร้องเรียนให้ตรวจสอบ”

“นางประพันธ์ศิริ สุเสารัจ” คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ในฐานะประธานสภาคณบดีคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย (ส.ค.ศ.ท.) กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่า การออกปฏิญญามหาสารคาม ของครูเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ แต่ก็เข้าใจเพราะครูก็เหมือนคนทั่วไป ซึ่งเวลากู้เงินอาจไม่ได้ดูข้อกฎหมายต่างๆ ให้รอบด้าน

ขณะที่ทางรัฐบาล และธนาคารออมสินเอง ก็มีแนวทางให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เพียงแต่อาจจะยังไม่เพียงพอเท่าที่ครูต้องการ จึงออกมาเรียกร้อง ซึ่งการกระทำแบบนี้ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เพราะสังคมคาดหวังกับครู ในการเป็นต้นแบบที่ดีให้กับเด็กและเยาวชน ดังนั้นกระแสโต้กลับจึงค่อนข้างมาก

“การออกปฏิญญาแบบนี้คนที่อยู่ในวิชาชีพครูไม่ควรทำ แม้ส่วนตัวเห็นใจครู แต่ก็อย่าลืม ว่าครูไม่ใช่นักการเมือง ครูต้องมีคุณธรรม จริยธรรมที่สูงกว่าคนทั่วไป เพราะสังคมคาดหวัง ให้ครูเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเด็กๆ” นางประพันธ์ศิริ กล่าว