คนร้ายทุบกระจกรถตำรวจ 2 คัน ขโมยวิทยุสื่อสาร 2 เครื่องและกล้องหน้ารถ ขณะจอดปฏิบัติหน้าที่บริเวณทางเข้าหน้าถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ก่อนหลบหนีไปอย่างลอยนวล คาดเป็นรายเดียวกับที่เคยทุบกระจกฉกวิทยุสื่อสาร จากรถกู้ภัยลำปางเมื่อ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ชื่อผู้ใช้ facebook PR.Chiangrai ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย ได้โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความว่า
โอ้แม่เจ้า !! เหิมทุบกระจกรถตำรวจ2คันรวดฉก ว. ขณะปฏิบัติงานถ้ำหลวง
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สาย จ.เชียงราย ได้รับแจ้งมีเหตุรถของทางราชการถูกทุบเสียหายขณะปฏิบัติหน้าที่บนถนนปากทางเข้าถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน หมู่บ้านจ้องวัด หมู่ 9 ต.โป่งผา อ.แม่สาย จึงไปตรวจสอบพบว่ารถที่ประสบเหตุเป็นรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย และ สภ.เวียงเชียงรุ้ง ซึ่งไปช่วยดูแลการจราจรและอำนวยความสะดวกด้านต่างๆ ภายในพิธีบวงสรวงเจริญพระพุทธมนต์ ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ซึ่งทางจังหวัดได้จัดขึ้นภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ช่วยเหลือทีมฟุตบอลเยาวชนชายหมูป่าอะคาดามี จำนวน 13 คน จนประสบความสำเร็จมาแล้วเมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา
โดยจุดเกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบว่ารถของเจ้าหน้าที่ตำรวจจอดอยู่ห่างจากสามแยกทางเข้าสู่ถ้ำหลวงประมาณ 500 เมตร โดยจอดอยู่ห่างกันคันละประมาณ 30 เมตร และตาม 2 ข้างทางตลอดแนวระยะทางกว่า 2-3 กิโลเมตร พบว่ามีรถของประชาชน จิตอาสาฯ สื่อมวลชนและผู้ไปร่วมในพิธีดังกล่าวจอดเรียงรายกันตามริมถนนที่เป็นเขตป่าเขาคับแคบและรถวิ่งสวนทางกันเกือบไม่ได้ไปตลอดแนว ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนใหญ่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณสามแยกเพื่อกันไม่ให้รถภายนอกและไม่เกี่ยวข้องแล่นเข้าไปภายในบริเวณสถานที่จัดพิธี และตามจุดต่างๆ ที่มีการประกอบพิธีทำให้ไม่มีผู้ใดอยู่บริเวณรถ
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าคนร้ายได้ทุบกระจกข้างของรถทางด้านซ้ายเหมือนกันทั้ง 2 คน โดยเป็นข้างที่อยู่ติดกับป่าละเมาะข้างทางจนกระจกหายไปทั้งแถบ ส่วนภายในรถพบวิทยุสื่อสารที่ใช้ในราชการภายในรถหายไปคันละ 1 เครื่องรวมจำนวนทั้งหมด 2 เครื่องและกล้องหน้ารถก็หายไปด้วย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าผู้ก่อเหตุเป็นชายวัยฉรรจ์ที่เดินดูลาดเลาและมีความประสงค์ทรัพย์สินเฉพาะวิทยุสื่อสารโดยอาจเคยก่อเหตุทุบกระจกรถของหน่วยกู้ภัยจาก จ.ลำปาง ที่เดินทางไปช่วยค้นหาทีมหมูป่าเมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่ามมาแล้ว โดยครั้งนั้นก็มีการทุบรถและฉกเอาวิทยุสื่อสารไป 1 เครื่องเช่นกัน
สำหรับครั้งนี้ก็คงเห็นว่ามีรถจอดอยู่มากและส่วนใหญ่ไปทำหน้าที่ที่ทางร่วมทางแยกรวมทั้งบริเวณหน้าถ้ำจึงฉวยโอกาสก่อเหตุตอนกลางวันดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมหลักฐานและติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป