เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ทหาร ฉก.ลาดหญ้า รวบสาววัย 28 พร้อมน้องชาย ขนยาไอซ์ล็อตใหญ่กว่า 15 กก.มูลค่าเกือบ 100 ล้านบาทที่ชายแดนสังขละบุรี อ้างรับจ้างญาติขนส่งไป จ.สุพรรณบุรีได้ค่าจ้างแค่หมื่นเดียว

เมื่อวันที่ 15 ก.ค. พ.อ.สราวุธ ไชยสิทธิ์ ผบ.ฉก.ลาดหญ้า ผบ.ร.29 กองกำลังสุรสีห์ กาญจนบุรี เปิดเผยว่า จากนโยบายการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาในประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ภายใต้การบัญชาการของ พล.ต. สนิธชนก สังขจันทร์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 ผู้บัญชาการกองกำลังสุรสีห์

ทั้งนี้เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา พ.อ.พิเชษฐ์ หัสดีผง รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ได้รับรายงานจากสายข่าวว่าจะมีขบวนการลักลอบขนยาเสพติดจำนวนมาก จากประเทศเพื่อนบ้านมาตามแนวตะเข็บชายแดนไทย-เมียนมาโดยใช้เส้นทางถนนสายบ้านพระเจดีย์สามองค์-สังขละบุรีไปยังตัวจังหวัดกาญจนบุรี

จึงนำกำลังไปตรวจสอบพร้อมด้วย นายปกรณ์ กรรณวัลลี นายอำเภอสังขละบุรี พ.ต.อ.มานิตย์ ผลวานิช ผกก.สภ.สังขละบุรี พ.ต.อ.สำราญ กลั่นมา ผกก.ตม.กาญจนบุรี พ.ต.อ.ทศพร ปทุมยา ผกก.ตชด.13 พ.ต.ท.วรากร วิทยาบำรุง ผบ.ร้อยตชด.134 นำชุดสุนัขทหารกองกำลังสุรสีห์ ร่วมตั้งจุดตรวจอย่างละเอียดบริเวณถนนสายสังขละบุรี-บ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 8 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี

กระทั่งพบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีดำ ทะเบียน ฏฉ 9465 กรุงเทพมหานคร ลักษณะตรงตามที่ได้รับรายงาน จึงส่งสัญญาณให้หยุดเพื่อตรวจค้น พบ น.ส.นิภาภัทร กลั่นบุศย์ อายู 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123 ม. 3 ต.พนมทวน อ. พนมทวน จ. กาญจนบุรี เป็นคนขับ มีนายวันเติม (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี น้องชาย นั่งด้านหน้าคู่กันมา โดยน.ส.นิภาภัทร มีสีหน้าตกใจแสดงอาการมีพิรุธอย่างเห็นได้ชัด

เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้นรถอย่างละเอียด ทุกซอกทุกมุมของรถ พบยาไอซ์เกล็ดสีขาวใส ห่อด้วยถุงชาจีนสีเขียวยี่ห้อ GUANYINWAN ซีนปิดปากถุง มีถุงพลาสติกสีดำทึบแสงปิดอีกชั้น ซุกซ่อนใต้แผ่นปูฝากระโปรงด้านหลังติดกับยางอะไหล่ด้านขวา จำนวน 5 ถุง ที่ใต้เบาะนั่งด้านหลังจำนวน7ถุง และที่บริเวณใต้ฝากระโปรงหน้ารถ 3 ถุง รวมจำนวน 15 ถุง น้ำหนัก 15.485 กิโลกรัม

จากการสอบสวนเบื้องต้น น.ส.นิภาภัทรให้การปฎิเสธและบอกว่าไม่ทราบว่ายาไอซ์ทั้งหมดอยู่ในรถ ตนพร้อมน้องชายมาเที่ยวที่บ้านพระเจดีย์สามองค์ ชายแดนไทย-เมียนมา พบเพื่อนสาวที่รู้จักกันโดยเพื่อนขอยืมรถขับเข้าไปเที่ยวในเมืองพญาตองซูประเทศเมียนมา พอบ่ายก็ขับกลับมาส่งคืน ตนและน้องจึงขับกลับบ้านที่ อ.พนมทวน และถูกเจ้าหน้าที่ตรวจค้นจับกุม

จนในที่สุดหลังถูกเจ้าหน้าที่สอบสวนนานกว่า 2 ชั่วโมง น.ส.นิภาภัทรถึงกับร้องไห้โฮ เปิดปากรับสารภาพว่า ยาไอซ์ทั้งหมดเป็นของตนเอง โดยรับจ้างจากญาติสาวคนหนึ่ง ให้ไปรับยาไอซ์ที่บ้านพระเจดีย์สามองค์ จากนั้นให้ไปส่งในพื้นที่จ.สุพรรณบุรี โดยได้ค่าจ้างเป็นเงิน 10,000 บาท จึงชวนน้องชายขับรถเก๋งคันดังกล่าว ทำทีมาท่องเที่ยวชมบ้านพระเจดีย์สามองค์ อ.สังขละบุรีจากนั้นจอดรถคากุญแจไว้ จนมีชายชาวเมียนมาขับรถคันดังกล่าวไป ถึงช่วงบ่ายชายคนดังกล่าวได้ขับรถมาจอดคืน จึงขับรถคันดังกล่าวเพื่อที่จะเดินทางไปส่งยาเสพติดในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ตรวจค้นจับกุมโดยทำมารวมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 โดยครั้งแรกเดินทางมากับญาติสาวที่จ้างวาน ได้ค่าจ้าง 3 พันบาท ส่วนนายวันเฉลิมอ้างว่า ไม่รู้เรื่องขนยาเสพติด น.ส.นิภาภัทรพี่สาวชวนนั่งรถมาเที่ยวเป็นเพื่อนเท่านั้น

ต่อมาเจ้าหน้าที่ จึงแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์เกินกว่า 20 กรัมไว้ในความครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย พร้อมนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 พร้อมของกลางยาไอซ์ 15 กก.โทรศัพท์มือถือ 2เครื่อง รถเก๋ง 1คัน ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี เพื่อดำเนินคดี และสอบสวนขยายผลต่อไป

อย่างไรก็ตามการจับกุมยาไอซ์ จำนวนกว่า 15 กก. ครั้งนี้ นับเป็นการจับยาไอซ์ครั้งแรก ที่มีจำนวนมากที่สุดของ จ.กาญจนบุรีมีมูลค่านับ 100 ล้านบาท สำหรับยาไอซ์มีการแพร่ระบาดในพื้นที่กรุงเทพมหานครเป็นส่วนใหญ่ กลุ่มผู้เสพจะเป็นกลุ่มไฮโซ คนมีเงินระดับเศรษฐี ราคาซื้อขายแนวชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.สังขละบุรี อยู่ประมาณกิโลกรัมละ1.5 ล้านบาท แต่ยาไอซ์จำนวนนี้เมื่อส่งถึงกรุงเทพฯ ราคาจะสูงขึ้น เป็นกิโลกรัมละ 5 ล้านบาท และหากส่งไปต่างประเทศเช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ราคาจะสูงเพิ่มขึ้นอีก 5 เท่า หรืออยู่ที่กิโลกรัมละ 20 ล้านบาท ยาไอซ์จำนวนนี้จะมีราคาถึง 300ล้านบาท