เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

   ยังต้องติดตามต่อเนื่อง จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับ กรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในช่วงวันที่ 15 – 19 กรกฎาคม 2561 อิทธิพลจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา ตอนบนของประเทศไทย และประเทศลาว อีกทั้งมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรง ส่งผลให้ทุกภาคมีฝนตกชุกหนาแน่นและตกหนัก อาจส่งผลให้พื้นที่ที่มีปริมาณฝนสะสมสูง เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง รวมถึงมีคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน

และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง คลื่นสูง 2 – 3 เมตร กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสาน 28 จังหวัด แยกเป็น ภาคเหนือ 6 จังหวัด ได้แก่ น่าน ตาก พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ และนครสวรรค์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8 จังหวัด ได้แก่ สกลนคร อุดรธานี กาฬสินธุ์ มุกดาหาร นครพนม ยโสธร ร้อยเอ็ด และมหาสารคาม ภาคกลาง 5 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี สระแก้ว ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด ภาคใต้ 9 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี พัทลุง ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย จัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็วและเครื่องมืออุปกรณ์ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันที อีกทั้งได้กำชับให้ประสานหน่วยงานเจ้าท่า ประมง และตำรวจน้ำออกลาดตระเวนแจ้งเตือนการเดินเรือทุกประเภท ให้เดินเรือด้วยความระมัดระวังและงดการเดินเรือหากทะเลมี คลื่นสูงและกำลังแรง รวมถึงเน้นย้ำให้มีการตรวจสภาพความพร้อมและความปลอดภัยก่อนออกเรือทุกครั้ง ทั้งความพร้อมของพนักงานขับเรือและพนักงานประจำเรือ และตรวจสอบให้มีอุปกรณ์ชูชีพประจำเรืออย่างเพียงพอ สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยฝนตกหนัก ขอให้ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด