เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

สลด! น้องเมียแทงจ้วงแทงพี่เขยไส้ทะลัก ญาติหามส่งรพ.ไม่ทันตายคาอกเมีย  ปมเหตุแบ่งมรดกที่ดิน แต่ไม่รอดโดนรวบทันควัน ขณะหลบซ่อนตัวในบ้านห่างจากจุดเกิดเหตุ 500 เมตร

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 15 ก.ค.61  ร.ต.อ.มาโนช  ปลอดขันเงิน  รอง สว.(สอบสวน) สภ.สวี จ.ชุมพร ได้รับแจ้งว่ามีคนถูกแทงด้วยอาวุธมีดและเสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาลสวี  จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบพร้อมด้วย พ.ต.อ.คำสิงห์  ศรียาภัย  ผกก.สภ.สวี  พ.ต.ท.ถิรเดช  แข็งแรง  สว.สส.สภ.สวี และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน รุดตรวจสอบ

ที่บริเวณในห้องชันสูตร(ห้องธรรมชาติ)ด้านหลังตึกฉุกเฉินโรงพยาบาลสวี พบศพผู้เสียชีวิตนอนอยู่บนเตียงทราบชื่อต่อมาคือ นายนเรศ  เปี่ยมยา อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61/3 หมู่ 6 ต.ครน อ.สวี จ.ชุมพร โดยที่มีญาติกำลังร่ำให้อยู่ข้างเตียง พบว่ามีบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคมบริเวณลำคอ ใต้รักแร้ข้างซ้าย และหน้าท้อง 2 แผล รวมทั้งหมดจำนวน 4 แผล โดยที่บริเวณหน้าท้องมีไส้ของผู้เสียชีวิตไหลออกมากองข้างนอกด้วย แต่พยาบาลได้นำผ้าก๊อตปกปิดไว้

สอบสวนนางเตือนใจ จิตศิริ อายุ 37 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิตให้การว่า ผู้ก่อเหตุที่แทงสามีตนไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นนายปราโมทย์  จิตศิริ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 หมู่ 6 ต.ครน อ.สวี จ.ชุมพร ซึ่งเป็นน้องชายแท้ๆ ก่อนเกิดเหตุเช้าวันเดียวกันขณะที่สามีตนนั่งอยู่หน้าบ้านกำลังเตรียมตัวออกไปทำงานก่อสร้าง น้องชายตนได้เดินลัดสวนยางพารามุ่งมาหาสามีตนโดยที่ในมือถือมีดพร้ามาด้วยแต่ตนไม่ได้เอะใจหรือสงสัยว่าจะเข้ามาทำร้ายแต่ทันใดนั้นน้องชายตนไม่พูดพร่ำทำเพลงยกมีดทำท่าจะฟันแต่สามีตนเห็นก่อนจึงหลบทันจนเกิดกอดวัดฟัดเหวี่ยงกันแต่น้องชายตนสู้ไม่ได้จึงนำมีดพกอีกเล่มออกมาจากเอวจ้วงแทงจนสามีล้อมฟุบมีไส้ไหลออกมาจากช่องท้องด้วยจึงร้องตะโกนให้ญาติและเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลสวีแต่เสียชีวิตระหว่างทาง ส่วนน้องชายหลังก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีไป

ต่อมาพ.ต.อ.คำสิงห์  ศรียาภัย ผกก.สวี  และพ.ต.ท.ถิรเดช  แข็งแรง สว.สส.สภ.สวี และกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ลงพื้นตรวจสอบบ้านหลังเกิดเหตุเลขที่ 61/3 หมู่ 6 ตำบลครน อำเภอสวี พบว่ามีกองเลือดบริเวณพื้นดินหน้าบ้านสองจุดและปลอกมีดสีดำยาวประมาณ 20 ซม. 1 ปลอก พร้อมกับสอบสวนพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสามารถติดตามจับกุมตัวนายปราโมทย์  หรือบ่าว มือมีดผู้ก่อเหตุได้ขณะหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านตนเอง ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านเกิดเหตุประมาณ 500 เมตร โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนใช้เวลาเกลี่ยกล่อมประมาณ 20 นาทีจึงยอมออกมามอบตัว  พร้อมทั้งตรวจสอบภายในบ้านพบเสื้อผ้าที่สวมใส่ในเวลาก่อเหตุถอดทิ้งไว้  เจอสนับมือ 1 คู่  ปืนยาวอัดลมและยังพบอาวุธมีดพกจำนวน  1 เล่ม แต่เบื้องต้นตรวจสอบไม่ใช่เล่มที่ก่อเหตุ จึงรวบรวมทั้งหมดเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าปมเหตุที่นายปราโมทย์ หรือบ่าวได้แทงนายนเรศฯจนเสียชีวิต เพราะว่านายปราโมทย์ไม่พอใจเรื่องการแบ่งที่ดินทำกินของพ่อให้กับครอบครัวพี่สาวด้วยทำให้ไม่พอใจและเกิดการทะเลาะกันเรื่อยมา แต่ผู้เสียชีวิตเป็นคนพูดน้อยและไม่อยากจะคุยด้วยเพราะว่านายปราโมทย์ฯมือมีด มักจะคุยไม่ค่อยรู้เรื่อง เพราะมีอาการทางจิตประสาทเคยมีประวัติเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสวนสราญรมย์ จ.สุราษฎร์ธานีมาก่อนหน้านี้ จนกระทั่งยังตามมาก่อเหตุดังกล่าวขณะเดียวกันก็ยังให้การวกวนพูดจาไม่รู้เรื่อง แต่ยอมรับว่าทำไปเพราะป้องกันตัวไม่ได้ตั้งใจ
ทั้งนี้ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ส่วนข้อหาอื่นๆนั้นต้องรอผลสอบสวนเพิ่มเติมก่อนส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป