ภายหลังจากมหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก ออกหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เพื่อขอมอบทุนการศึกษาให้โค้ชเอกและนักฟุตบอลทีมหมูป่า อะคาเดมี จำนวน 13 คน เรียนปริญญาตรี จนถึงระดับปริญญาเอก ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์ของสังคม เนื่องจากมองว่าเด็ก ๆ และโค้ช เป็นผู้ประสบภัย ไม่ใช่ฮีโร่
ด้าน ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.กาญจนา เงารังษี อธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยไม่ได้เกาะกระแสสังคมตามที่หลายคนกำลังวิพากษ์วิจารณ์ แต่เนื่องจากมหาวิทยาลัยได้เล็งเห็นภาวะผู้นำของโค้ชเอกที่สอนให้น้อง ๆ นั่งสมาธิจะได้ไม่หิวในถ้ำ รวมถึงเห็นความตั้งใจและการเชื่อฟังโค้ชเอกของเด็ก ๆ ทีมหมูป่าจนทำให้รอดชีวิตมาได้
ดังนั้นจึงคิดว่านี่คือการควานหาเพชรในสังคมไทย โดยมหาวิทยาลัยควรจะสนับสนุนการศึกษาให้เด็ก ๆ เป็นผู้ประสบภัย ควรเห็นใจและให้โอกาส เพราะหลังเหตุการณ์นี้จะต้องฟื้นฟูสภาพจิตใจ ช่วงแรก ๆ พอผ่านไปหลังจากนั้นสังคมอาจจะลืม
ไม่เกี่ยวกับกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา จำนวนทุนยังไม่จำกัด อยู่ที่จำนวนเงินที่มหาวิทยาลัยได้รับบริจาค แต่จะต้องทำข้อตกลงว่า หากสำเร็จการศึกษาแล้วจะต้องกลับไปทำงานพัฒนาบ้านเกิดตามภูมิลำเนา โดยมหาวิทยาลัยจะลงพื้นที่ไปช่วยหางานให้ทำอีกด้วย
ทั้งนี้ หากโค้ชเอกและเด็ก ๆ สนใจที่จะเรียนมหาวิทยาลัยนเรศวร สามารถติดต่อไดทันที เรียนได้ทุกคณะตามที่ต้องการเรียน และจะมีเงินค่าใช้จ่ายรายเดือน รวมถึงหอพักให้อยู่ฟรีอีกด้วย ส่วนจะเรียนต่อจนถึงระดับไหน อยู่ที่ความสามารถของเด็ก ที่สำคัญมหาวิทยาลัยยังมีทีมฟุตบอลให้น้อง ๆ ได้เข้าร่วม แต่ต้องขึ้นอยู่กับทักษะการเล่นฟุตบอลของเด็กด้วย
อย่างไรก็ตาม ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.กาญจนา ยังบอกอีกว่า เสียดายที่ จ.อ.สมาน กุนัน หรือ จ่าแซมไม่มีลูก จึงไม่ได้มอบทุนให้ แต่สำหรับหน่วยซีล ชุดช่วยเหลือทีมหมูป่า หากต้องการให้ลูกเข้าเรียน มหาวิทยาลัยนเรศวรก็ยินดีต้อนรับเช่นกัน