เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 02 ก.ค. ร.ต.อ.อิทธิพล พรหมภินันท์ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บริษัทไทยรอแยลฟรอเซนฟู๊ด จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 119/99 ม.1 ต.ท่าจีน อ.เมือง จ.สมุทรสาครบริษัทผู้ส่งออกอาหารทะเลแช่เยือกแข็งรายใหญ่ของ จ.สมุทรสาคร และในระดับแถวหน้าของประเทศไทย มีนายทวี นางอำไพ หาญไกรวิไลย์ ประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร และ เลขาธิการสมาคมแช่เยือกแข็งไทย เป็นผู้บริหารตรวจสอบที่เกิดเหตุโดยมีนายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผวจ.สมุทรสาคร พล.ต.ต.มานะ อินพิทักษ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร นายรังสรรค์ เจียรนัย นายก ทต.ท่าจีน และหน่วยงานต่างๆ เข้าควบคุมสถานการณ์ด้วย

ซึ่งได้ประสานรถดับเพลิงจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายพื้นและรถโฟมของบริษัท PSP สเปเชียลตี้ จำกัด รวมกว่า 20 คัน เข้าระงับเหตุ ซึ่งบริเวณที่เกิดเพลิงไหม้นั้น เป็นอาคารฝ่ายผลิตอาหาทอด ขนาดใหญ่ 2 ชั้น ตั้งอยู่บนเนื้อที่เกือบ 2 ไร่ พบกลุ่มควันหนาแน่นเจ้าหน้าที่ต้องเข้าไปใช้น้ำฉีดสกัดเพลิงลุกไหม้ภายในตัวอาคารและใช้รถกระเช้าฉีดน้ำสกัดเพลิง เพื่อกันลุกลามไปบริเวณอื่น

นอกจากนี้ได้มีคนงานได้มาช่วยกันเคลื่อนย้ายถังแก๊สออกจากบริเวณจุดเกิดเหตุอีกด้วย ซึ่งใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงอยู่ในวงจำกัด โดยพบว่าตัวอาคารทรุดตัวและเครื่องจักรกลขนาดใหญ่ และอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในกระบวนการทอดกุ้ง รวมถึงห้องเก็บบรรจุภัณฑ์ได้รับความเสียหายทั้งหมด

ทั้งนี้หลังจากที่เพลิงได้สงบลงแล้ว นายนคร หาญไกรวิไลย์ ผู้อำนวยการบริษัท เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า สาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้นั้นยังไม่สามารถระบุได้ว่าต้นตอมาจากอะไรแน่ แต่จุดที่เกิดเหตุเป็นบริเวณห้องทอดกุ้ง ซึ่งมีทั้งเครื่องจักรกลขนาดใหญ่ 5 เครื่อง น้ำมันที่ใช้ในกระบวนการทอดกุ้งเป็นจำนวนมากจึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี อีกทั้งยังมีโฟมที่ใช้บรรจุภัณฑ์ และแผ่นโฟมที่ใช้ในการในการบุผนังห้อง

จึงเป็นเรื่องที่ค่อนยากต่อการดับเพลิง โดยวิธีการดับเพลิงก็ได้ใช้ทั้งรถน้ำและรถโฟม โชคดีที่ไฟไม่ลุกลามไปถึงห้องแช่เยือกแข็งที่ใช้เก็บกุ้งเพื่อการส่งออก และหลังจากนี้ส่วนของบริษัทนั้นจะประสานให้บริษัทประกันภัย เข้าตรวจสอบด้วยเพื่อทราบมูลค่าของความเสียหายที่ชัดเจน โดยไม่มีใครบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใดทั้งสิ้น

ขณะที่ พล.ต.มานะ สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับทรัพย์สินของทางบริษัท โดยจะกันพื้นที่ไว้ให้เป็นพื้นที่อันตรายก่อน อีกทั้งยังเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้วย ส่วนการเข้าตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้นั้น

ต้องรอให้วัสดุอุปกรณ์ภายในเย็นตัวลง แล้วจึงจะให้ทางเจ้าหน้าที่วิทยาการ กองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ต่อไป