เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

“ฝอยทอง” โปรตุเกส เป็นอันต้องยุติเส้นทางไว้เพียงรอบ 16 ทีมสุดท้ายเท่านั้นหลัง เอดินสัน คาวานี่ ดาวยิงจอมแกร่งระเบิดฟอร์มซัดคนเดียวสองเม็ดพา “จอมโหด” อุรุกวัย เฉือนชัยด้วยสกอร์ 2-1 ผ่านเข้าไปพบ ฝรั่งเศส ต่อไป ในศึกฟุตบอลโลก 2018 (รอบ 16 ทีมสุดท้าย) เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่าน

 

 

สนาม : ฟิสท์ โอลิมปิก สเตเดี้ยม, โซชิ, ประเทศรัสเซีย

ทั้งสองทีมต่างจัดทีมชุดใหญ่มาแบบจัดเต็ม โดย อุรุกวัย ที่ชนะรวดทั้ง 3 นัดในรอบแบ่งกลุ่ม นำทัพโดยคู่หอกระดับพระกาฬอย่าง หลุยส์ ซัวเรซ และ เอดินสัน คาวานี่ ส่วน โปรตุเกส มี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นหัวใจในแนวรุกเช่นเคยโปรตุเกส

 

 

 

เริ่มครึ่งแรกนาทีที่ 2 จากจังหวะที่ ชูเอา มาริโอ เปิดบอลจากฝั่งซ้าย บอลเลยไปถึง แบร์นาโด้ ซิลวา แต่ ดาวเตะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โหม่งหลุดกรอบไป จากนั้นนาทีที่ 6 ทัพ “ฝอยทอง” ได้ลุ้นอีกครั้ง เมื่อ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้ซัดเต็มๆ จากนอกเขตโทษ แต่บอลไปตรงตัว แฟร์นานโด มุสเลร่า อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 7 กลายเป็น อุรุกวัย ที่ขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ หลุยส์ ซัวเรซ เปิดบอลสุดแม่นยำให้ เอดินสัน คาวานี่ ขึ้นโขกคนเดียวโล่งๆ ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายอย่างเฉียบขาด หลังจากเสียประตูไป โปรตุเกส ก็พยายามทวงประตูคืนทันที และนาทีที่ 11 พวกเขามีลุ้นจากการโหม่งของ โชเซ่ ฟอนเต้ แต่บอลไม่ตรงกรอบ

ทั้งสองทีมเปิดเกมรุกแลกกันสนุก และนาทีที่ 22 อุรุกวัย เกือบได้ประตูเพิ่ม เมื่อ ซัวเรซ ได้ยิงฟรีคิกระยะ 25 หลา แต่ รุย ปาตริซิโอ นายทวารโปรตุเกส พุ่งปัดออกไปได้ นาทีที่ 32 โปรตุเกส ได้ฟรีคิกระยะได้ลุ้น หลังจากที่ กอนซาโล่ กูเอเดส ถูก โรดริโก้ เบนตานกูร์ ทำฟาวล์ แต่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กดบอลไปติดกำแพงของอุรุกวัย ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก อุรุกวัย ได้เสียวจากจังหวะที่ คาวานี่ ได้วอลเล่ย์ในกรอบเขตโทษ แต่บอลโดนไม่เต็มเท้า หลุดกรอบไปจบครึ่งแรก อุรุกวัย นำ โปรตุเกส 1-0

 

 

เริ่มเกมครึ่งหลัง โปรตุเกส เดินเกมรุกก่อนทันที แต่ยังทำเกมไม่ถนัด เนื่องจาก อุรุกวัย มีการเพรสซิ่งที่ยอดเยี่ยม และนาทีที่ 51 ราฟาแอล เกร์เรยโร่ ลองซัดไกล แต่บอลไม่ตรงกรอบ หลังจากที่บี้อย่างหนัก ในที่สุดนาทีที่ 55 แชมป์ยุโรปก็ตามตีเสมอ อุรุกวัย เป็น 1-1 จนได้ จากจังหวะที่ได้ลูกเตะมุม ซึ่งเล่นสั้น ก่อนที่ เกร์เรยโร่ เปิดเข้ามาให้ เปเป้ ปราการหลังจอมแกร่ง โขกเต็มๆ ส่งบอลตุงตาข่าย

ช่วงที่ โปรตุเกส กำลังเดินหน้าบุกเพลินๆ กลายเป็น อุรุกวัย ที่ขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 ในนาทีที่ 62 จากจังหวะความผิดพลาดในแนวรับของทีม “ฝอยทอง” ที่เสียบอลให้ โรดริโก้ เบนตานกูร์ ก่อนที่ เบนตานกูร์ เปิดให้ คาวานี่ ยิงจังหวะเดียวทันที ส่งบอลโค้งๆ พุ่งผ่านมือ ปาตริซิโอ เข้าไปแบบสุดสวย นาทีที่ 70 โปรตุเกส มีโอกาสทอง จากการออกมาตัดบอลพลาดของ มุสเลร่า บอลไปเข้าทาง แบร์นาโด้ ซิลวา แตะหนึ่งจังหวะ แต่เจ้าตัวกลับซัดข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย

 

 

โปรตุเกส เป็นฝ่ายบุกฝ่ายเดียวในช่วง 10 นาทีสุดท้าย และนาทีที่ 87 มานูเอล แฟร์นานเดส ตัวสำรอง ได้ลองยิงไกล แต่บอลไปตรงตัว มุสเลร่า ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ โปรตุเกส ได้ลุ้นจากการยิงของ กวาเรสม่า แต่ มุสเลร่า ป้องกันเอาไว้ได้อีกครั้ง จบเกม อุรุกวัย เชือด โปรตุเกส 2-1 ทะลุเข้าไปดวลกับ ฝรั่งเศส ในรอบก่อนรองชนะเลิศ

 

 

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

อุรุกวัย : เฟร์นานโด มุสเลร่า – มาร์ติน คาเซเรส, โฮเซ่ คีเมเนซ, ดีเอโก้ โกดิน (กัปตันทีม), ดีเอโก้ ลาซัลท์ – นาอีตาน นานเดซ (คาร์ลอส ซานเชซ น.81), ลูคัส ตอร์เรร่า, มาตีอัส เวชีโน่, โรดรีโก้ เบนตานกูร์ (คริสเตียน โรดรีเกซ น.63) – หลุยส์ ซัวเรซ, เอดินสัน คาวานี่ (คริสเตียน สตูอานี่ น.74)

เทรนเนอร์ : ออสการ์ ตาบาเรซ

โปรตุเกส : รุย ปาตริซิโอ – ริคาร์โด้ เปเรยร่า, เปเป้, โชเซ่ ฟอนเต้, ราฟาเอล เกร์เรยโร่ – แบร์นาร์โด้ ซิลวา, วิลเลี่ยม คาร์วัลโญ่, อาเดรียน ซิลวา (ริคาร์โด้ กวาเรสม่า น.65), ชูเอา มาริโอ (มานูเอล แฟร์นานเดส น.85) – กอนซาโล่ เกดิส (อันเดร ซิลวา น.74), คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (กัปตันทีม)

เทรนเนอร์ : แฟร์นานโด ซานโตส

ผู้ตัดสิน : เซซาร์ อาร์ตูโร่ รามอส (เม็กซิโก)