มิติใหม่ของการไปวัดเลย เมื่อได้พบเจอแบบนี้ วันที่ 21 มิ.ย.61 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดมงคลประชาราม หมู่ 6 ถนนศาลายา-บางภาษี ต.คลองโยง อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม เนื่องจากได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า ทางวัดได้มีการบูรณะเมรุเผาศพหลังเก่าอายุเกือบ 40 ปี โดยการทาสีเมรุเผาศพทั้งหลังถึงยอดเมรุซึ่งมีการทาสีรวม 11 สี ซึ่งเป็นที่สะดุดตาแก่ประชาชนที่เดินทางผ่านมา และชาวบ้านที่มางานในวัด
ด้านพระครูโสภณธรรมมงคล เจ้าอาวาสวัดมงคลประชาราม กล่าวว่า ได้มีการก่อสร้างเมรุหลังใหม่ขึ้นมาเมื่อปี 59 และจะรื้อถอนเมรุหลังนี้ พอดีตอนนั้นได้ทาสีใบเสมาที่ข้างอุโบสถอยู่เลยเอาสีที่เหลือมาทาที่เมรุ และมีโยมชื่อไก่ เห็นเข้าก็ได้ซื้อสี 7 กระป๋องใหญ่มาถวาย อาตมาจึงตัดสินใจทาสีเมรุหลายสี จนกระทั่งมีชาวบ้านมาเห็น และชื่นชอบก็ซื้อสีมาถวายกันจำนวนมากลายเป็น 11 สี ซึ่งทาสีสลับกันไปมาทั่วทั้งเมรุเพื่อให้ดูสดใสสวยงาม และสีที่เหลือก็ไปทาที่ซุ้มป้ายชื่อทางเข้าวัดอีก มีพระลูกวัดก็ช่วยกันทาช่วยกันทำไม่เสียค่าแรงค่าใช้จ่ายเลย สีก็ได้ญาติโยมนำมาถวาย
พระครูโสภณธรรมมงคล เจ้าอาวาสวัดมงคลประชาราม กล่าวต่อว่า หลังจากที่ได้บูรณะเมรุให้มีสีสวยงาม ชาวบ้านที่ผ่านไปผ่านมาก็ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันมา เป็นสีที่ดูแล้วสดใส ไม่น่ากลัวเหมือนแต่ก่อน และเวลามีงานศพ เจ้าภาพจะให้ย้ายมาเผาที่เมรุหลังนี้เลยซึ่งทางเจ้าภาพงานบอกว่าจะได้ลดความเศร้าโศกเสียใจทั้งญาติและคนที่มางาน เห็นแล้วจะได้ไม่รู้สึกกลัว โดยก่อนหน้านี้จะไปเผาศพที่เมรุหลังใหม่กัน
“อาตมาคิดว่า การทาสีเมรุให้มีสีสันสดใส จะทำให้ประชาชนที่ผ่านไปผ่านมาจะได้ไม่กลัว อีกทั้งเมื่อญาติโดยที่มาเผาศพจะได้ไม่ต้องรู้สึกโศกเศร้าระดับหนึ่ง ให้คนที่ยังอยู่จะได้มีสติครองตนในการใช้ชีวิตอยู่ ทำมาหากิน อย่างไม่ประมาท ไม่มัวมาตกอยู่ในความโศกเศร้า เสียใจ เป็นสัจธรรมมีเกิดแก่เจ็บตาย” พระครูโสภณธรรมมงคล กล่าวทิ้งท้าย.