เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

หลังจากโลกโซเชียล ได้มีการโพสต์และแชร์เรื่องที่น่าสลดใจเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่มี เด็กชาย 3 คน อายุตั้งแต่ 6, 8 และ 11 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.1 ป.3 และ ป.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งในตำบลสองชั้น อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ได้ร่วมกันพยายามข่มขืนกระทำชำเรา ด.ญ.ชั้น ป.1 ซึ่งเรียนโรงเรียนเดียวกัน ที่บริเวณริมสระน้ำในหมู่บ้าน เหตุเกิดช่วงบ่ายวันอาทิตย์ ที่ผ่านมา

จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว ทราบว่าผู้ปกครองของ เด็กหญิง ป.1 ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ว่าลูกสาวได้ถูกล่วงละเมิดทางเพศจริง และทางพนักงานสอบก็ได้แนะนำให้ผู้ปกครองพา เด็กหญิงที่ถูกกระทำไปตรวจที่ รพ.กระสัง และถูกส่งต่อไปยัง รพ.ศูนย์บุรีรัมย์ เนื่องจากพบว่าอวัยวะเพศของเด็กมีอาการบวมแดง และมีอาการปวดท้องรุนแรงเกรงว่าจะติดเชื้อ ซึ่งขณะนี้เด็กยังรักษาตัวที่ รพ.บุรีรัมย์ แต่ยังไม่ชัดเจนว่ามีการล่วงละเมิดทางเพศหรือไม่ต้องรอผลการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง

ร.ต.อ.พงศ์กร อ่อนฉลวย รองสารวัตร(สอบสวน)สภ.กระสัง พร้อมตำรวจชุดสืบสวน ลงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกับเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวบุรีรัมย์ จากการสอบถามยายของเด็กหญิง 7 ขวบชั้น ป.1 ทราบว่า ระหว่างเกิดเหตุตนขับรถจักรยานมาเจออยู่ขอบสระน้ำพอดี เห็นหลานตัวเองนอนหงายอยู่ขอบแอ่งน้ำ โดยมี เด็กชายอายุ 7 ขวบ 2 คนและ 10 ขวบ 1 คน เป็นคนในหมู่บ้าน กระทำคล้ายอนาจาร จึงวิ่งเข้าไปดูหลานตัวเอง ส่วนเด็กชายทั้ง 3 ได้วิ่งหนีเข้าหมู่บ้าน เมื่อสอบถามหลานก็ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนเพียงบอกว่าถูกทั้ง 3 คนกระทำอนาจาร แต่พอกลางคืนหลานตัวเองละเมอเสียงดังว่า ”อย่าทำหนู” พร้อมกับลุกขึ้นแล้วใช้มือลักษณะปัดสิ่งกีดขวางออกจากตัว จึงรีบพาหลานไปส่งโรงพยาบาลกระสัง ก่อนจะถูกส่งต่อมาที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์

ยายเด็กหญิง 7 ขวบ เล่าด้วยว่า พอรุ่งเช้าได้ไปแจ้งความที่ สภ.กระสัง  ตาของเด็กชาย 10 ขวบซึ่งเป็นนักการเมืองท้องถิ่น ยินดีจ่ายเงินเป็นสินไหมทดแทนให้เป็นจำนวนเงิน 10,000 บาท โดยได้จ่ายให้ก่อน 2,000 บาท โดยระหว่างที่มีการสอบถามเด็กที่ก่อเหตุตนเองถึงกับตกใจ หลังจากเด็กชาย 10 ขวบสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากเพื่อน 7 ขวบที่อยู่ด้วยกันเป็นเงิน 35 บาท ให้กดหัวเด็กหญิงจมน้ำเพื่อต้องการฆ่าปิดปากเพราะเกรงความผิด

ทางด้าน น.ส.กุลจิรา โฉมไสว หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.บุรีรัมย์กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเด็กผู้เสียหายที่โรงพยาบาล เด็กยังให้การอะไรไม่ได้มากนัก เนื่องจากยังอยู่ในอาการตกใจซึ่งจะต้องให้สหวิชาชีพมาสอบอีกครั้ง อย่างไรก็ตามสำหรับกรณีดังกล่าวถือเป็นคดีอาญา ทางบ้านพักเด็กฯจะต้องเข้าไปเยี่ยวยาด้านจิตใจทั้งฝ่ายผู้เสียหาย และฝ่ายผู้ก่อเหตุ เพราะเป็นเด็กอายุน้อยทั้งหมด