เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เวลาประมาณ เที่ยงวันกว่าๆ คนงานบริษัทห้องเย็นดวงใจสมุทร ถนนราชญาติรักษา ต.แม่กลอง เขตเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม พบองค์หลวงพ่อบ้านแหลม ลอยอยู่กลางแม่น้ำแม่กลอง ผลุบๆ โผล่ๆ สีทองเหลืองอร่าม คนงานจึงกระโดดลงน้ำหวังจะอุ้มขึ้นมา แต่องค์หลวงพ่อบ้านแหลมจมน้ำหายไป

ต่อมา น.ส.จงจิตร วนาดรวรวิศาล เจ้าของห้องเย็นดวงใจสมุทร ได้บอกให้คนงานรีบเอาธูปมา 3 ดอก จุดธูปอธิษฐานจิต เพื่อขออัญเชิญหลวงพ่อบ้านแหลม ปางอุ้มบาตร ขึ้นมาบนฝั่ง เป็นที่น่าอัศจรรย์ เมื่อหลวงพ่อโผล่น้ำขึ้นมา เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง เนื่องจากองค์หลวงพ่อบ้านแหลม ปางอุ้มบาตร เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้านคู่เมืองของชาวแม่กลองให้ความเคารพนับถือมาหลายชั่วอายุคนแล้ว พระพุทธรูปปางอุ้มบาตร ที่พบเป็นเนื้อเรซิน สภาพใหม่ พ่นสีทอง ฐานพระเท้าวางบนดอกบัว วัดโดยรอบ 22 นิ้ว ความสูง 19 นิ้ว

น.ส.หลิม ชาตรี อายุ 73 ปี แม่ค้าขายหอยทอดและอาหารตามสั่ง กล่าวว่า เชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อบ้านแหลม หลานตัวเองเคยตกลงไปในทะเล บนบานหลวงพ่อขอให้รอดชีวิตกลับมาจะบวชเณรให้ ก็รอดชีวิตกลับมาบวชเณรให้ตามที่บนไว้ ตนเองที่บ้านก็เช่ามาบูชาไว้ เชื่อว่าหลวงพ่อจะมาอยู่กับบ้าน เจ้เจียม เจ้าของห้องเย็นดวงใจสมุทร เพราะแกชอบทำบุญทำทานอยู่เป็นประจำ

ด้านนายประเสริฐ ฝั่งสินธุ์ อายุ 59 ปี ช่างรับเหมาก่อสร้างชาวแม่กลอง กล่าวว่า เชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ขององค์หลวงพ่อบ้านแหลมมีอยู่จริง องค์ที่ลอยน้ำมาเป็นเนื้อเรซิน มีน้ำหนักเบาเหมือนอิฐมวลเบา จึงลอยน้ำได้ หากเป็นเนื้อทองเหลืองจะมีน้ำหนักมากก็คงจมน้ำไม่สามารถลอยน้ำได้ ช่วงนี้มีน้ำทะเลหนุนสูง ชาวบ้านคงเก็บใส่กล่องใส่ลังเอาไว้แล้วถูกน้ำท่วมจึงลอยมา หรือมาจากท้องที่อื่นที่ถูกน้ำท่วม