บิ๊กตู่…!! จ่อยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 1 ต.ค.นี้ เล็งใช้พ.ร.บ.โรคติดต่อ คุมแทน ส่งผลให้ ศบค.หายไปตามกม.
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 19 ส.ค. 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.อุดม คชินทร ที่ปรึกษาศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กล่าวก่อนการประชุมศบค.ชุดใหญ่ ถึงการพิจารณาให้โควิด-19 เป็นโรคติดต่อเฝ้าระวัง จะต้องยกเลิกการใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ในวันที่ 1 ต.ค.นี้ด้วยหรือไม่ว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยกเลิกแน่นอน เบื้องต้นเรื่องนี้ได้หารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะผอ.ศบค. ก็ไม่ขัดข้อง เนื่องจากเห็นว่าสถานการณ์เริ่มเบาลง และหากยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ศบค.ก็ต้องหายไปด้วยตามกฎหมาย
นพ.อุดม กล่าวว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อมีคนไข้ในระบบประมาณ 2,000 คน และคนไข้ที่ตรวจพบจาก ATK อยู่ในระบบวันละ 30,000 คน และนอกระบบ 1-2 เท่าต่อวัน ภาพรวมผู้ติดเชื้อวันละ 6-7 หมื่นคน ซึ่งตัวเลขคงที่มาประมาณเกือบเดือน จึงคาดการณ์ว่าสถานการณ์อาจคงอยู่อีก 1 เดือน และหลังวันที่ 1 ต.ค. น่าจะเริ่มลดลง และคนไข้ที่เข้าโรงพยาบาล น่าจะต่ำกว่า 1,000 คนต่อวัน ถ้าเป็นตัวเลขนี้ จะเสียชีวิตวันละ 10 คน เป็นตัวเลขที่น่าพอใจ ที่จะกลายเป็นโรคติดต่อเฝ้าระวัง ส่วนการจะเป็นโรคประจำถิ่นจะดูไปอีกสักระยะ
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
-ผู้เสียหายสมาร์ท พลัส เข้ายื่นหนังสือถึง “ชวน หลีกภัย” นำโดย “อี้ แทนคุณ”
-สุดจะโป๊ะ สาวจีนฟิลเตอร์หลุด โชว์หน้าสดทำช็อกทั้งโซเชียล
นพ.อุดม กล่าวอีกว่า สำหรับการประชุมในวันนี้ จะพิจารณากรอบนโยบายและแผนดำเนินงานช่วงเปลี่ยนผ่านไปสู่โรคประจำถิ่น เริ่มตั้งแต่เดือน ก.ย.-ต.ค.เป็นต้นไป สิ่งที่ต้องทำ 2 เรื่องใหญ่ คือเตรียมการให้คนไข้เข้าถึงบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเวลานี้ยังมีเสียงบ่นจากคนไข้ในการพบหมอและรับยา ยืนยันว่าเรื่องยาไม่ต้องกังวลยังมีเหลือเพียงพอ ทั้งฟาวิพิราเวียร์ และโมลนูพิราเวียร์ แต่ปัญหาคือ เรื่องบริหารจัดการบางที่คนไข้มากน้อยต่างกัน และจากนี้จะให้คนไข้รับยาที่ร้านยาในเครือข่ายได้อีกทางหนึ่ง
ทั้งนี้ ขอย้ำว่าประชาชนยังต้องป้องกันตัวเอง โดยการสวมหน้ากากอนามัยยังจำเป็นที่สุด ล้างมือให้บ่อยและเว้นระยะห่าง รวมถึงการปฏิบัติตัวป้องกันโรคแบบครอบจักรวาล