เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

18 ก.ค. 65 นายธนชน เคนสิงห์ ผู้อำนวยการสวนสัตว์นครราชสีมา เปิดเผยว่า นกกระเรียนพันธุ์ไทยเคยสูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติ ในประเทศไทย มานานกว่า 50 ปี กระทั่งเมื่อปี 2532 สวนสัตว์นครราชสีมา ได้รับบริจาคลูกนกกระเรียนพันธุ์ไทย จากประชาชนแนวชายแดนเขมร จำนวน 10 ตัว จึงได้ทำการเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์เรื่อยมา จนได้ลูกนกตัวแรกในปี 2540 ด้วยวิธีการขยายพันธุ์แบบธรรมชาติ และประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ถือว่าเป็นที่แรกในด้านการผสมเทียมนกกระเรียนพันธุ์ไทย ในปี 2545

ทั้งนี้ องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ได้มีการริเริ่มโครงการปล่อยนกกระเรียนพันธุ์ไทยคืนสู่ธรรมชาติตั้งแต่ปีงบประมาณ 2551 จากแนวคิดของผู้บริหารของ 3 หน่วยงาน ภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการด้านสัตว์ป่า ระหว่างกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย และได้รับงบประมาณสนับสนุนจากกองทุนสิ่งแวดล้อมโลก ในปี 2558 – 2562 ภายใต้โครงการ “อนุรักษ์ถิ่นอาศัยของพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ที่มีความสำคัญระดับโลกในพื้นที่ภาคการผลิต” จนกระทั่งในปี 2564 มีนกกระเรียนพันธุ์ไทยที่เพาะขยายพันธุ์ได้ถูกปล่อยคืนสู่ธรรมชาติไปแล้ว ทั้งสิ้น 133 ตัว รอดชีวิตทั้งสิ้น 90 ตัว คิดเป็นอัตราการรอดหลังการปล่อย 67.66%

นายธนชน กล่าวอีกว่า สวนสัตว์นครราชสีมา มีปัญหาในการปล่อยกลุ่มนกกระเรียนพันธุ์ไทยกลุ่มแรกคืนสู่ธรรมชาติเมื่อปี 2554 นั้นยังคงมีการไล่ล่าจากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของประชาชนที่อยู่โดยรอบพื้นที่ชุ่มน้ำ และแหล่งพื้นที่เกษตรกรรมของชุมชน รวมทั้งการใช้ยาปราบศัตรูพืชในพื้นที่การเกษตร เช่น ยากำจัดหนู ยาฆ่าหญ้า ยาฆ่าแมลง ซึ่งมีผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อประชากรนกกระเรียนพันธุ์ไทย อีกทั้งการสูญเสียแหล่งที่อยู่อาศัย เนื่องจากการเสื่อมสภาพของถิ่นอาศัย และแหล่งอาหาร รวมไปถึงแหล่งน้ำที่ไม่เพียงพอ 

ที่สำคัญทัศนคติส่วนบุคคลที่ไม่ดีต่อนกกระเรียนพันธุ์ไทย เช่น เข้าใจว่าเป็นตัวรบกวน และทำให้ผลผลิตด้านเกษตรกรลดน้อยลง ดังนั้น เพื่อให้สามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้ องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ร่วมมือกับสมาคมอนุรักษ์นก และธรรมชาติแห่งประเทศไทย จึงได้ดำเนินการด้านการเผยแพร่ความรู้ สร้างจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์ และส่งเสริมการมีส่วนร่วมในด้านการอนุรักษ์ให้กับชุมชนท้องถิ่น และประชาชนทั่วไป ผ่านโครงการ กระเรียนอุปถัมภ์ ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจสามารถมีส่วนร่วม ในการอุปถัมภ์ รังนกกระเรียนพันธุ์ไทย เพื่อเป็นการชดเชยความเสียหายทางการเกษตร ที่เกิดจากการใช้พื้นที่ของนกกระเรียนพันธุ์ไทย ในการทำรังบนนาข้าวในพื้นที่เกษตรกร และช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินการติดตาม และเก็บข้อมูลการทำรังของเจ้าหน้าที่ภาคสนามโดยรายละเอียด

การอุปถัมภ์ มีค่าใช้จ่าย 6,500 บาท ต่อรัง แบ่งค่าใช้จ่าย เป็นค่าตอบแทนผู้แจ้งข่าว รังละ 500 บาท ค่าตอบแทนเจ้าของที่นา รายละ 3,000 บาท ค่าใช้จ่ายในการติดตามรัง รังละ 1,000 บาท ค่าจัดทำรายงาน ของที่ระลึก และค่าดำเนินการ 2,000 บาท

ข่าวที่หน้าสนใจ