“สุดช็อก” ภัตตาคารลอยน้ำ ตำนาน 50 ปี ฮ่องกง จมสู่ก้นทะเลจีนใต้
เมื่อหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่าน วันที่ 14 มิถุนายน อเบอร์ดีน เรสเตอรอง เอ็นเตอร์ไพรส์ บริษัทเจ้าของภัตตาคาร “จัมโบ้” ได้วางแผนที่จะนำมันไปจอดยังสถานที่ใหม่ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงไม่สูงนัก
ต่อมา อเบอร์ดีน เรสเตอรอง เอ็นเตอร์ไพรส์ ได้ออกมาระบุเรื่องสุดช็อกว่า ภัตตาคารลอยน้ำ “จัมโบ้” ได้พบเจอสภาพอากาศที่เลวร้าย ในวันที่ 18 มิถุนายน ขณะกำลังแล่นผ่านหมู่เกาะพาราเซลในทะเลจีนใต้ ทำให้น้ำเข้าไปในเรือจนเรือเอียง ขณะที่เจ้าหน้าที่พยายามที่จะกู้เรือ แต่ล้มเหลวจนทำให้เรือพลิกคว่ำในวันที่ 19 มิถุนายน
บริษัทได้ระบุว่า ความลึกของน้ำในจุดเกิดเหตุมากกว่า 1,000 เมตร ด้วยขนาดที่ใหญ่โต เพราะนี่คือ ภัตตาคารลอยน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งการจะกู้ภัตตาคารลอยน้ำ 3 ชั้น ขนาด 4,200 ตร.ม ที่จุคนได้มากกว่า 2,300 คน จึงไม่ใช่เรื่องง่ายหรือคุ้มค่าที่จะกู้ซากขึ้นมา บริษัทรู้สึกเสียใจอย่างยิ่งกับอุบัติเหตุครั้งนี้ และเหตุการณ์ที่ขึ้นในครั้งนี้ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
ภัตตาคารลอยน้ำ “จัมโบ้” ถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญของฮ่องกงมานานกว่าสี่ทศวรรษ และให้บริการอาหารจีนกวางตุ้งกับแขกมากกว่า 3 ล้านคน ซึ่งรวมถึงสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ของอังกฤษ และทอม ครูซ ดาราฮอลลีวูดชื่อดัง
เมื่อปี 2020 ภัตตาคารปิดให้บริการอันเนื่องมาจากการระบาดของโควิด-19 และเป็นการนำมาซึ่งการเลย์ออฟพนักงาน ทางบริษัท อเบอร์ดีน เรสเตอรองต์ เอ็นเตอร์ไพรส์ กล่าวว่า ภัตตาคารแห่งนี้กลับกลายเป็นภาระทางการเงินแก่บรรดาผู้ถือหุ้น เนื่องจากต้องใช้เงินหลายล้านดอลลาร์ฮ่องกงในการตรวจสอบและซ่อมบำรุง แม้จะไม่สามารถเปิดให้บริการได้
