ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) นายนาคาญ์ ทวิชาวัฒน์ เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างหารือกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ให้พิจารณาตีความผิดในกรณีจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารปลอมที่มีส่วนผสมของยา เช่น ไวอากร้า เป็นความผิดในการขายยาปลอม แทนการขายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารปลอม เพราะฐานความผิดจะเพิ่มขึ้น เป็นระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3-5 ปี โดยหากเป็นกรณีโรงงานที่ผลิตสินค้าไม่ได้มาตรฐาน จะมีโทษสั่งปิดโรงงาน และมีรางวัลนำจับด้วย
ส่วนกรณีดารานักแสดง ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในปัจจุบัน มี 2 กรณีคือ กรณีแรกดารารับเป็นพรีเซ็นเตอร์ ซึ่งกรณีนี้มีโทษไม่รุนแรง อีกกรณีคือ ดาราเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์เอง โดยจากการเข้าไปตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า มีผลิตภัณฑ์ของดาราบางตัวใส่สาร ไซบูทรามีน ซึ่งเป็นสารตั้งต้นยาบ้าเพื่อลดน้ำหนัก หรือใส่สารปรอทเพื่อให้ผิวขาว ขณะที่ผลิตภัณฑ์กาแฟบางยี่ห้อ มีส่วนผสมไวอากร้าของจีน และสารออริสแตท เพื่อดักจับไขมัน
สำหรับภาพรวมของตลาดเครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ปัจจุบันมีมูลค่ารวมเกือบ 1 แสนล้านบาทต่อปี จากเดิมมีมูลค่า 1,000-10,000 ล้านบาทต่อปี โดยผลิตภัณฑ์ในตลาด 40% เป็นผลิตภัณฑ์ปลอม ที่มีการผลิตไม่ได้มาตรฐาน ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ขณะที่ในระบบมีโรงงานผลิตสินค้าได้มาตรฐานประมาณ 1,000 กว่าโรงงาน ส่วนโรงงานไม่ได้มาตรฐานมีประมาณกว่า 1 หมื่นโรงงาน และเนื่องจากการขอทะเบียนจาก อย.เป็นเรื่องยาก แต่การผลิตง่าย จึงมีการผลิตไม่ถูกต้องออกมาค่อนข้างมาก
หากจะดูโรงงานไหนได้มาตรฐาน ให้ดูในอย.และเว็บไซต์ ส.อ.ท.วิธีดูง่ายๆ คือคีย์เลขอย.เข้าไปก็จะขึ้นชื่อ ถ้าไม่ตรงกับฉลากถือว่ามีปัญหา นอกจากนี้ ให้สังเกตในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ และการรับเป็นพรีเซนเตอร์ เพราะหากเป็นผลิตภัณฑ์ไม่มีคุณภาพ มักนำเงินจำนวนมากมากองเป็นพร็อพ เพื่อเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือ