เหตุการณ์สุดอุกอาจตามไปทำร้ายกันถึงในโรงพยาบาล จนเลือดตกยางออกซ้ำอีก สภ.เมืองอุบลราชธานี ได้รับแจ้งความจาก น.ส.ภัทรนันต์ เฮงวรเศรษฐ์กุล อายุ 37 ปี เจ้าของคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่งในเทศบาลนครอุบลราชธานี เข้าให้ปากคำกับ พ.ต.ท.ปราโมทย์ ชื่นตา รองผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองอุบลราชธานี หลังถูกน.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี อดีตพนักงานพร้อมพี่ชายที่เป็นสาวประเภทสองบุกทำร้ายร่างกาย ขณะนอนพักรักษาตัวในร.พ.เอกชน ทำให้ได้รับบาดเจ็บ
นางสาวภัทรนันต์ เปิดเผยว่า เช้าวันเกิดเหตุ(16 เม.ย.)ตนเองได้ขับรถออกจากบ้านเพื่อมาเปิดคลินิคเสริมความงามบนถนนชยางกูร ใกล้ห้างบิ๊กซี สาขาอุบลราชธานี ระหว่างทางเกิดอุบัติเหตุรถเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ได้รับบาดเจ็บ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งตนมารู้สึกตัวอีกครั้งเวลาประมาณ 16.00 น.(16 เม.ย.) ขณะที่ตนฟื้นสติขึ้นมาแต่ยังไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ พบนางสาวแนนและพี่ชายซึ่งเป็นสาวประเภท 2 ยืนอยู่หน้าห้องพักฟื้น
จากนั้นนางสาวแนนและพี่ชายสาวประเภทสองได้เดินเข้ามาต่อว่าด้วยคำหยาบคายและเสียงดังว่า ตนเอาเสื้อของนางสาวเอไปทิ้งถังขยะ ในความเป็นจริงแล้วตนไม่รู้เรื่องเสื้อแต่อย่างใด พยาบาลประจำแผนกได้ยินเสียงดังเดินเข้ามาห้ามปรามโดยมีสาวประเภทสองที่มาด้วยยืนถ่ายคลิปอยู่บริเวณประตู ต่อมานางสาวแนนได้เดินเข้ามาข้างหลังตนแล้วใช้กำปั้นทุบที่ศรีษะจนอาเจียนเป็นเลือด เนื่องจากอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุจากรถยนต์ก่อนหน้า
ยังไม่หนำใจนางสาวแนน ยังได้กระโดดถีบตนจนตกจากเตียงคนไข้ ใช้เท้าเตะไปมาจนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้ามาแยกแล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
พ.ต.ท.ปราโมทย์ กล่าวว่าสำหรับกรณีดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ได้กำชับเร่งรัดให้พนักงานสอบสวนดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆเพื่อให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ขั้นต้นเชื่อได้ว่าผู้ที่ถูกกล่าวหาได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหาจริง จึงได้รวบรวมหลักฐานนำเสนอขอหมายจับนางสาวเอ และพี่ชายซึ่งเป็นสาวประเภทสอง ในวันที่ 20 เม.ย.61 ในข้อหาร่วมกันบุกรุกสำนักงานในความครอบครองของผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายโดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป และดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้า ส่วนในวันที่ 21 เม.ย.61 เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 ราย ซึ่งเป็นสาวประเภทสองพี่ชายของนางสาวแนน
ส่วนมูลเหตุในครั้งนี้จากการสอบสวนที่ปรากฏพบว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่มีเรื่องของธุรกิจ หรือชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างไรทางเจ้าหน้าที่ก็ยังรวบรวมพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายเพื่อให้ความเป็นธรรม ส่วนการกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการกระทำที่อุกอาจพอสมควรเนื่องจากเป็นสถานที่ของผู้ป่วยเป็นโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียง ซึ่งไม่สมควรอย่างยิ่งทั้งในเรื่องของวุฒิภาวะและกฎหมายบ้านเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าขณะที่ทางผู้สื่อข่าวได้รอสัมภาษณ์ผู้เสียหาย นางสาวแนนได้ติดต่อเข้ามาขออธิบายข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพื่อให้นำเสนอข่าวทั้งสองด้าน แต่นางสาวแนนทราบว่ามีผู้เสียหายอยู่ด้วยจึงไม่ขอให้การในข้อเท็จจริงในขณะนั้น แจ้งเพียงว่าจะขอให้ข่าวในวันที่ 24 เม.ย.61หรือไม่ก็จะขอให้การในชั้นศาลตามคำแนะนำของนักกฎหมาย ซึ่งอย่างไรก็ตามทางผู้สื่อข่าวจะได้ติดตามความคืบหน้ามาเสนอเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่ายต่อไป
