เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

รศ. พ.ต.ท. ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล ประธานกรรมการสถาบันอาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวถึงคดีการเสียชีวิตของดาราสาว แตงโม นิดา ว่า หลังจากฟังคำให้การของ 5 คนที่อยู่บนเรือ มีเรื่องที่น่าสงสัยหลายประเด็น

ส่วนตัวมองว่า สิ่งสำคัญในด้านนิติวิทยาศาสตร์คือ การเก็บหลักฐานลายนิ้วมือบนเรือ และคราบปัสสาวะท้ายเรือ ถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะบอกได้ว่าคุณแตงโมได้ไปปัสสาวะที่ท้ายเรือจริงอย่างที่ให้การหรือไม่ ซึ่งการตรวจสอบดีเอ็นเอจากคราบปัสสาวะ ทางเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ของไทยสามารถทำได้

   ทั้งนี้ ตนขอยกตัวอย่างคดีในประเทศอังกฤษ ก็เคยเกิดเหตุลักษณะนี้ ที่มีชายคนหนึ่งก่อเหตุฆาตกรรมแล้วปัสสาวะไว้ในที่เกิดเหตุ ทางตำรวจได้เก็บดีเอ็นเอจากคราบปัสสาวะไว้ และอีก 10 ปีต่อมา ชายผู้นี้ได้ก่อเหตุทำร้ายหญิงชราและปัสสาวะรดต้นไม้ เมื่อมีการพิสูจน์หลักฐานจึงพบว่า ดีเอ็นเอปัสสาวะตรงกับการก่อเหตุฆาตกรรมในอดีต

ส่วนประเด็นที่น่าสงสัยหลังเกิดเหตุแตงโมตกเรือ มี 4 ประเด็น ดังนี้  

1. คนที่อยู่บนเรือเมื่อเกิดเหตุแล้ว ทำไมไม่รอตำรวจทำการสืบสวนเพื่อที่จะได้ประสานกับทีมช่วยเหลือ และเจ้าหน้าที่ด้านนิติวิทยาศาสตร์

2. ทำไมคนบนเรือถึงหายไป และไม่เข้าให้ข้อมูลกับตำรวจในเช้าวันต่อมา แต่รอให้เวลาผ่านไป 24 ชั่วโมงก่อน

3. คำให้การที่บอกว่า คุณแตงโมต้องการจะปัสสาวะ ถือเป็นเรื่องที่น่าสงสัย เพราะเขาเป็นดาราที่มีชื่อเสียง และมีผู้ชายอยู่บนเรือ อีกทั้งเจ้าตัวสวมชุดบอดี้สูทอยู่ด้วย จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำ ขณะเดียวกันการล่องเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา หากปวดปัสสาวะจริง ๆ สามารถวิ่งเรือเข้าฝั่งโดยใช้เวลาไม่นาน

4. คำให้การที่บอกว่า คุณแตงโม เมื่อตกเรือไปแล้วสามารถเกาะเรือได้ ก่อนจะจมหายไป ซึ่งขัดแย้งกับคำให้การที่ระบุว่า เรือกำลังแล่นแล้วตกลงไป เพราะในความเป็นจริงถ้าเรือกำลังแล่นจะเป็นเรื่องยากที่จะมาเกาะเรือได้

ดังนั้น ประเด็นเหล่านี้จึงถือเป็นคำให้การที่มีความขัดแย้งกันเองของคนบนเรือ จึงอยากให้พูดความจริง เพราะถึงอย่างไร หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ก็สามารถตรวจสอบได้