เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 24 ม.ค. ที่หน้าองค์การสหประชาชาติ (UN) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่ม​ขบวนการ​ประชาชน​เพื่อ​สังคม​ที่​เป็น​ธรรม​ (p-move)​ ตั้งขบวน เดินไปยังเนียบรัฐบาล โดยใช้เส้นทาง ถนนราชดำเนินนอก เลี้ยวขวา ผ่านหน้าวัดโสมนัสราชวรวิหาร เลี้ยวซ้ายเทวกรรมรังรักษ์ มุ่งหน้าแยกนางเลิ้ง เลี้ยวซ้ายถนนพิษณุโลก แยกพาณิชย์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โดยระหว่าทางทางกลุ่มได้หยุดอ่านแถลงการณ์ บริเวณตรงข้ามวัดโสมนัสฯ โดยมีใจความว่า นับเป็นวันที่ 5 แล้วที่พวกเราขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือ พีมูฟ ปักหลักชุมนุมอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ยืนยันว่าต้องได้พบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของพีมูฟ และยื่นข้อเรียกร้องเชิงนโยบายทั้งสิ้น 15 ข้อ เข้าสู่การประชุมของคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบเท่านั้น

จนถึงวันนี้ เราได้พบเพียงผู้แทนที่อ้างตนว่าได้รับมอบหมายให้มาดูแลประเด็นปัญหาของพวกเราจากพลเอกประวิตร ที่ทำงานไม่ต่างจากบุรุษไปรษณีย์ ทำได้เพียงส่งสาร แต่ปรากฏชัดว่าไม่สามารถประสานงานไปยังพล.อ.ประวิตรได้จริง และไม่มีอำนาจในการตัดสินใจนำข้อเรียกร้องของเราเข้าสู่การประชุม ครม. ให้ความสำคัญกับกฎระเบียบและข้อกฎหมายของทางราชการมากกว่าชีวิตและความเป็นความตายของประชาชน

เมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราจึงได้ร่างมติคณะรัฐมนตรีฉบับภาคประชาชนขึ้นมา ประกอบด้วยข้อเรียกร้องทั้ง 15 ข้อ และรายละเอียดจากพวกเราประชาชนที่ประสบปัญหาตัวจริงเสียงจริง พวกเราใช้เวลาเพียง 1 วันในการทำให้ร่างมติ ครม. นี้เกิดขึ้น เพราะเราอยากสะท้อนให้ผู้มีอำนาจและเพื่อนๆ อีกหลายกลุ่มได้เห็นว่า ปัญหาเชิงนโยบายเหล่านี้ไม่อาจรอให้เวลาล่วงเลยไปแล้วจึงค่อยแก้ หากรัฐบาลมีความจริงใจและมีประสิทธิภาพมากพอก็จะสามารถแก้ไขปัญหานำเข้าสู่ ครม. ได้โดยไร้ข้ออ้างใดๆ

นับแต่บัดนี้ เราจะนำร่างมติ ครม. ภาคประชาชนไปยื่นให้ถึงมือ ครม. พวกเราได้ประกาศระดมกำลังมวลชนเพิ่มเติม จนมีมวลชนไม่ต่ำกว่า 1,000 คน จาก 119 เครือข่าย และจะทยอยเข้ามาสมทบเรื่อยๆ เราจะนำมวลชนของพวกเราเคลื่อนขบวนไปที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อยื่นร่างมติ ครม. ฉบับนี้ และจะมีทั้งหมด 2 เงื่อนไขที่รัฐบาลต้องรับ ได้แก่

1. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนากยกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ต้องมารับร่างมติ ครม. ภาคประชาชนด้วยตนเอง

2. จะไม่มีการเปิดเจรจาวงเล็ก แต่ให้มารับร่าง มติ ครม. ภาคประชาชนด้วยตนเอง และเจรจาต่อหน้าผู้เข้าร่วมชุมนุมทั้งหมด

3. จะต้องมีหลักประกันที่ชัดเจน เป็นลายลักษณ์อักษร ว่าจะมีการนำข้อเรียกร้องทั้งหมดเข้าสู่การประชุมของ ครม. ให้มีมติเห็นชอบโดยเร็วที่สุด

พวกเรายืนยันว่า เราให้เวลาท่านในการแก้ไขปัญหาของพวกเรามานานพอแล้ว และไม่อาจทนรอได้อีกต่อไป ยิ่งดำเนินการล่าช้าเท่าไร มวลชนก็จะเพิ่มมากขึ้น และการเคลื่อนไหวก็จะถูกยกระดับมากขึ้นเท่านั้น และอาจนำไปสู่การล่มสลายของรัฐบาลท่ามกลางความสั่นคลอนของพวกท่านเอง

จากนั้นทางกลุ่มได้เดินต่อ และมาหยุดอยู่บริเวณตรงข้ามโรงเรียนราชวินิต มัธยม เนื่องจากเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนได้นำรั่วเหล็กและรั่วรวดหนามพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน กว่า 150 นาย

เวลา 10.05 น. กลุ่มผู้ชุมนุมพีมูฟ ร่วมกับเครือข่ายสลัม 4 ภาค เรียกระดมพลขั้นต่ำ 1,000 คน มุ่งหน้าสู่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อกดดันรัฐบาลให้เกิดการแก้ไขปัญหาประชาชน ตามสิทธิของประชาชนที่ได้ตกลงไว้ หลักจากที่ผ่านมามีการตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหา ขปส. และการตั้งคณะอนุกรรมการฯ จำนวนมาก แต่ไม่มีผลคืบหน้า

ทั้งนี้จากการประมาณการของเจ้าหน้า คาดว่ามีกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าร่วม ประมาณ 350 คน มีการตรึงกำลังเจ้าหน้าที่ ทั้งสันติบาล นครบาล ตำรวจควบคุมฝูงชน 150 นาย โดยมีการปิดถนน ตั้งแต่ช่วงแยกสนามม้านางเลิ้งเดิม ถึงแยกสวนมิสกวัน

โดยวางรั้วแผงเหล็กร้อยด้วยลวดสลิง 3 ชั้น โดยชั้นแรกอยู่ที่บริเวณด้านหน้าโรงเรียนราชวินิต เสริมแนวรั้วลวดหนาม 3 ชั้น พร้อมวางกำลังตำรวจ 3 ชั้น ชั้นที่ 2 อยู่บริเวณป้ายรถเมล์หน้ามหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร และชั้นที่ 3 อยู่บริเวณกลางสะพานชมัยมรุเชฐ เสริมด้วยรถตู้เจ้าหน้าที่ตำรวจอีก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในเวลา 09:52 กลุ่มผู้ชุมนุม เคลื่อนมาถึงบริเวณแยกสนามม้านางเลิ้ง และขอเจรจาเพื่อไปชุมนุมประชิดทำเนียบรัฐบาล เพื่อขอเปิดครม.ภาคประชาชนหลังจากที่รัฐบาลอ้างว่าไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ตามกรอบเวลาที่ตกลงกับประชาชน ขณะที่เจ้าหน้าที่มีการเสริมกำลังอย่างต่อเนื่องและกันสื่อมวลชนให้อยู่หลังแนวเจ้าหน้าที่และอยู่บนทางเท้า

ขณะที่เวลา 10.10 น. พ.ต.อ.สมยศ อุดมรักษาทรัพย์ ผู้กำกับการตำรวจนครบาลนางเลิ้ง ได้เข้าเจรจากับตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุม ด้านหน้ารั้วลวดหนามหีบเพลง ด้านหน้าโรงเรียนราชวินิต มัธยม โดยกลุ่มผู้ชุมนุมแสดงความไม่พอใจและโหไล่ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะล่าถอยออกมา