จากกรณีหนุ่ที่เกือบตกเป็นแพะ หลังโดนตำรวจ ขอตรวจค้นรถยนต์ บริเวณทางเข้าซอยแบริ่ง ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ซึ่งการตรวจค้น แล้วเจอกับสารสีขาว และอ้างเป็นสารเสพติด ต่อมาแม่ผู้เสียหายมาที่จุดเกิดเหตุ ยืนยันสารสีขาวไม่ใช่สารเสพติด ที่แท้เป็นการบูรที่ซื้อมาใส่ไว้ในรถลูกชาย ซ้ำตำรวจยังข่มขู่ ทำร้ายและไม่ให้ไปแจ้งความ
วันนี้ผู้กำกับตำรวจ ถึงกับยกมือไหว้ ให้หนุ่มกรณีที่เข้าใจผิดว่าเป็น ยาเค ก่อนที่แท้จริงจะพบว่า การบูร ด้านหนุ่มถูกซ้อมกล่าวอยากให้ตรวจสอบดีกว่านี้ แต่ไม่ได้เอาความกับตำรวจ แค่เสียความรู้สึก
ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ นำหลักฐานไปยัง ศปก.สภ.สำโรงเหนือ พร้อมพานายฮาซัน อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นผู้เสียหายจากกรณีฉาวก่อนหน้านี้ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุมนาย ฮาซัน หลังจากที่ตำรวจพบสารสีขาวและคิดว่าเป็นยาเค พร้อมใส่กุญแจมือและทำร้ายร่างกาย ก่อนที่ความจริงจะปรากฏออกมาว่าเป็น การบูร จนนำไปสู่การลงดาบ 5 ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้
นายฮาซัน กล่าวว่า อยากให้ตำรวจมีดุลพินิจในการดูของกลาง หรือยาเสพติด ให้มากกว่านี้ อยากจะถามถึงชุดที่จับกุมในวันนั้น ว่าตนอ้อนวอนเขา ปฎิเสธทุกครั้งว่าไม่มีสารเสพติด ก้มลงไปกราบเท้า จนอยากจะถามว่าชุดจับกุมนั้น กล้าทำเหมือนตนวันนั้นหรือเปล่า ตนเสียความรู้สึก ฝังอยู่ในใจทุกวันนี้ ฝากถึงคนที่ต่อยหน้า อยากให้ควบคุมอารมณ์มากกว่านี้
ขณะที่ผู้เป็นมารดา กล่าวว่า ขอบคุณตำรวจ ที่มีความอดทนมายืนรอหน้าบ้าน ครึ่งชั่วโมง เพื่อขอโทษ ตอนนั้นบอกตรงๆ ว่าแม่ก็กลัว ที่ไม่ได้ออกมาต้อนรับตำรวจ แม่ก็ขอโทษด้วย อยากฝากถึง ตำรวจที่พึ่งของประชาชน อยากให้มีดุลพินิจในการจับกุมยาเสพติด อยากให้กรณีลูกชายเป็นกรณีอุทาหรณ์ แม่ก็สบายใจขึ้นที่ได้มาพูดคุยกับตำรวจในวันนี้
พ.ต.อ.อาทิตย์ ซิ้มเจริญ ผกก.สภ.สำโรงเหนือ กล่าวว่า ตนยินดีรับผิดชอบ กับเรื่องทั้งหมด เป็นความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากการทำงาน พร้อมเข้าไปเยียวยาผู้เสียหาย ในสิ่งที่ผิดพลาดก็ต้องไปถอดบทเรียน แก้ไข เพื่อไม่ให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอีก ส่วนเรื่องคดีก็ต้องว่าไปตามข้อเท็จจริง เป็นไปตามขั้นตอน ตนในฐานะผู้บังคับบัญชา อยากจะกราบขอโทษ น้องฮาซัน และครอบครัว
หลังจากนั้น พ.ต.อ.อาทิตย์ ซิ้มเจริญ ผกก.สภ.สำโรงเหนือ และตำรวจ ได้ลุกขึ้น ยกมือไหว้ขอโทษ โดยผู้เสียหาย และครอบครัวก็ลุกขึ้น รับไหว้ตำรวจ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“ผู้เสียหาย”ถาม ขาดอิสรภาพใครรับผิดชอบ!! ‘กรรชัย’ ดมเอง มันคือการบูรไม่ใช่ยาเค..?
กลุ่มวัยรุ่นชายหญิงกว่า 10 คน มั่วสุมปาร์ตี้ยาเค กันอย่างสนุกสนานเสียงดัง ไม่เกรงใจใคร
ต่อมาทนายไพศกลุ่มวัยรุ่นชายหญิงกว่า 10 คน มั่วสุมปาร์ตี้ยาเค กันอย่างสนุกสนานเสียงดัง ไม่เกรงใจใคราล เรืองฤทธิ์ เผยต่อว่า ได้คุยกับผู้เสียหายมาแล้ว ทางตำรวจออกมาแสดงความรับผิดชอบ เยียวยา ผู้เสียหายก็ไม่ติดใจดำเนินคดีในข้อหาอื่นๆ เบื้องต้นจะแจ้งความ ในข้อหา “ทำร้ายร่างกาย” เพียง 1 ข้อหาเดียว ว่าไปตามกฎหมาย และตนในฐานะทนายความ จะติดตามเรื่องการเยียวยา ให้ผู้เสียหาย