กระทรวงสาธารณะสุขจัดทำบุญอุทิศส่วนกุศลแด่ผู้เสียชีวิตจากโควิด 19 จำนวนกว่า 2 หมื่นรายพร้อมกล่าวว่าสายพันธุ์โอไมครอนยังสามารถคุมได้และไม่รุนแรงกว่าสายพันธุ์เดลตา แต่อาจแพร่เชื้อเร็วกว่า พร้อมกับระบุว่าเตียงยังมีเพียงพอ
วันที่ 23 ธ.ค.2564 ที่ศาลาพระธรรมโกศาจารย์ วัดพุทธปัญญา จ.นนทบุรี นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุขนำทีมผู้บริหารและบุคลากรสาธารณสุข จัดพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด 19 ในประเทศไทยทุกราย ซึ่งประเทศไทยพบผู้เสียชีวิตรายแรกตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.2563 จนถึงปัจจุบันเสียชีวิตทั้งหมด 21,501 ราย
ปลัดสธ.กล่าวว่า วันนี้ฉีดวัคซีนได้ครบ 101 ล้านโดส เป็นการสร้างความปลอดภัยของประเทศชาติ แต่การระบาดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีผู้ป่วยโควิดเสียชีวิตมากกว่า 2 หมื่นราย ทางกระทรวงสาธารณสุขมีความเสียใจต่อการเสียชีวิตที่ผ่านมา ซึ่งในจำนวนนี้เป็นบุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุข จำนวน 20 กว่าราย อาสาสมัคร 38 ราย หวังว่าทุกคนจะผ่านปัญหาครั้งนี้ไปได้ และเริ่มต้นการทำงานกันใหม่
ปลัดสธ.กล่าวต่อว่า สำหรับเชื้อโอไมครอนยังดูแลได้ ข้อสรุปในตอนนี้คือความรุนแรงไม่มากกว่าเดลตาอาจจะแพร่เชื้อเร็วกว่า แต่อยู่ในระดับที่สามารถควบคุมเชื้อได้ ในส่วนของเตียงรักษามีประมาณกว่า 2 แสนเตียง ใช้ไป 3 หมื่นเตียง ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขประชุมเมื่อวันที่ 22 ธ.ค. มีการยกระดับการควบคุมป้องกันโรค และมอบหมายให้กรมควบคุมโรคจำลองสถานการณ์การณ์การระบาดของเชื้อโอไมครอนด้วย
ปลัดสธ.กล่าวอีกว่า คาดว่าจะได้ข้อสรุปวันที่ 27 ธ.ค.นี้ และวางแผนรองรับทั้งรักษา ป้องกัน หากประเมินแล้ว ตอนเชื้อเดลตาเข้าไทยมีการฉีดวัคซีนเพียง 20-30% เท่านั้น ความรู้ยังมีไม่มาก เตียงอาจจะยังไม่พอ แต่ตอนนี้มีเตียงที่เพียงพอ มีระบบ HI /CI รองรับการครอบคลุมวัคซีนมีมากขึ้น
“เบื้องต้นข้อมูลกรมควบคุมโรครายงาน คือ โอไมครอนความรุนแรงไม่น่ามากกว่าเดลตา เพราะจากข้อมูลและรายงานต่างประเทศ เช่นอังกฤษติดเชื้อเป็นหมื่นราย เสียชีวิตจำนวน 12 ราย” ปลัดสธ.กล่าวว่า การวางฉากทัศน์ที่ผ่านมาไม่ได้อยู่บนความครอบคลุมวัคซีนนัก แต่ครั้งนี้มีการครอบคลุมวัคซีน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สธ. เห็นชอบเดินหน้า ฉีดวัคซีนโควิด เข็ม4 ในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ด่านหน้า
โควิดวันนี้ ดับเพิ่ม 31 ราย ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นอีก 2,532 ราย