ซึ่งทางผู้สื่อข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ พบกับนางสาวศิริพร ขจรภพ อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของรถ และนายศรนรินทร์ กัญยาคำ อายุ 28 ปี เป็นหลานของผู้เสียหาย ได้ชี้จุดที่จอดรถไว้หน้าอาคารพานิชย์ เลชที่ 307/1 หมู่ที่ 1 ตำบลหนองไผ่แก้ว ในช่วงเวลาฝนตกหนัก เวลาประมาณ 21.00 น. แต่พอตื่นมาจะนำรถไปทำงาน ก็พบว่าหายไปแล้ว จึงได้แจ้งความให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรบ้านบึง เข้าตรวจสอบ และได้เปิดเผยว่า รู้สึกตกใจที่รถมาหายไป ทำให้งานสะดุด ไม่มีรถใช้ เลยอยากจะฝากไปถึงคนร้าย ถ้าคิดมาทำอาชีพนี้คงไม่มีความสุข เพราะทำให้คนอื่นเดือดร้อน จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับได้โดยเร็ว ไม่เช่นนั้นอาจไปก่อเหตุที่อื่นอีก
ด้านทางน.ส.พิมลวรรณ มงคลแก้ว อายุ 62 ปี เจ้าของอาคารพานิชย์ดังกล่าว เล่าว่า ก่อนหน้านี้ไม่กี่เดือนก็มีรถจักรยานยนต์ของตนที่จอดไว้หายไป อีกทั้งเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2560 ปีที่แล้ว ก็มีรถกระบะมาหายไป จึงคาดว่าจะเป็นคนร้ายรายเดียวกัน ที่รู้จังหวะอาศัยช่วงฝนตก ทุกวันนี้ ทางเจ้าของรถที่ยังไม่ได้รถคืน และมาผ่อนใหม่ ต้องมานอนหน้าห้องเฝ้าทุกวัน เกรงว่ารถจะหายไปอีก
