เว็บไซต์เดลี่สตาร์ เผยเรื่องราวชวนอึ้งของหญิงสาวรายหนึ่ง ชื่อว่าเคซี่ วัย 26 ปี จากรัฐเทนเนสซี สหรัฐอเมริกา เรื่องราวของเธอกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างมากในสื่อออนไลน์ ภายหลังจากเธอได้ออกมาเปิดใจเกี่ยวกับพฤติกรรมสุดแปลก นั่นคือ การกินอัฐิขี้เถ้าของสามีผู้เสียชีวิตจากไป และแม้ว่าเธอจะรู้สึกละอายใจและรังเกียจพฤติกรรมของเธอ แต่เธอก็หยุดมันไม่ได้
ข่าวอื่นๆเพิ่มเติม
- วันนี้แม่จะพาหนูไปนะ!! แม่นำอัฐิพิมลอยอังคาร พร้อมอโหสิ ทอยทอย ลั่นทอยทอยไม่ต้องมา
- ทำพิธีเก็บอัฐิ น้าค่อม รอภรรยาออกจาก รพ. เพื่อร่วมทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลอีกครั้ง
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2562 เคซี่ได้เผชิญกับเหตุการณ์ใจสลายราวโลกของเธอหยุดหมุน เมื่อ ฌอน สามีสุดที่รักของเธอ เสียชีวิตจากไปด้วยโรคหอบหืด เธอเศร้าโศกและเสียใจมาก ทำใจไม่ได้ที่เขามาจากเธอไปเช่นนั้น เธอจึงพกสิ่งเดียวที่เหลือไว้ดูต่างหน้าอย่างอัฐิขี้เถ้าของสามี ไปด้วยกันทุกที่ ให้เหมือนกับว่าเขายังอยู่กับเธอด้วย “ฉันพาสามีไปทุกที่ ไปร้านขายของชำ ช้อปปิ้ง ดูหนัง ออกไปกินข้าว ทุกที่ที่ฉันไป เขาจะไปด้วย” เคซี่ กล่าว
ทว่าหลังจากเวลาผ่านไป วันหนึ่งขณะเคลื่อนย้ายอัฐิของสามี มีเศษขี้เถ้าร่วงอยู่ในกล่องกระดาษและเปื้อนมือของเคซี่ แต่เธอทั้งรักและหวงแหนมันมาจนไม่สามารถปัดมันทิ้งไปได้ จึงตัดสินใจใช้นิ้วจิ้มและดูดเข้าปากกิน
นั่นกลายเป็นจุดเริ่มต้นพฤติกรรมสุดแปลกประหลาด หลังจากนั้น เธอก็มักจะใช้นิ้วจิ้มอัฐิของสามีมากิน ผ่านมาประมาณเกือบ 2 เดือน เธอกินมันทุกวัน วันหนึ่งมากถึงวันละ 5-6 ครั้ง และเธอก็กลัวว่าวันหนึ่งเธอจะกิน “สามี” ของเธอหมดจนไม่เหลือให้รำลึกถึง “พอเปิดโกศออกมาก็สัมผัสได้ถึงความสุข มันเหมือนกับอะดรีนาลีนที่พุ่งพล่านสำหรับฉัน ยิ่งกินยิ่งตื่นเต้น จนรู้ว่าเหลืออีกไม่มากแล้ว” เคซี่ กล่าว
ทั้งนี้ เคซี่เผยว่ารสชาติมันแย่มาก แต่เธอก็หยุดกินไม่ได้ “รสชาติเหมือนไข่เน่า ทราย และกระดาษทราย แต่ฉันเริ่มชอบรสชาตินั้น จากที่ไม่อยากทิ้งมัน และสุดท้ายกลายเป็นฉันค่อย ๆ กินเขา น้ำหนักของฉันลดลงไปราว 19 กิโลกรัม หลังจากสามีจากไป แท้จริงแล้วก็เพราะฉันกินแค่อัฐิของเขา”
อย่างไรก็ตาม เคซี่รู้สึกผิดอย่างมากหลังจากที่กินเข้าไปแล้ว เธอกล่าวว่า “มันทำให้ฉันรู้สึกอาย ละอายใจ รังเกียจตัวเอง สับสน และบ้าบอมาก คุณต้องเป็นคนป่วยจริง ๆ ที่จะกินขี้เถ้าของใครบางคนได้เช่นนี้” เคซี่เผยว่า หากเธอยังไม่สามารถหยุดพฤติกรรมนี้ได้ อัฐิของสามีที่เหลือคาดว่าจะหมดลงในเร็ว ๆ นี้อย่างแน่นอน และเธอก็ไม่สามารถรับประกันได้เลยว่าเธอจะเหลือมันเอาไว้ได้เหรือไม่ แต่เธอก็พยายามจะหักห้ามใจเอาไว้ให้ได้มากที่สุด
“ฉันต้องหยุดกินมัน ฉันเคยสูญเสียเขาไปแล้วครั้งหนึ่ง คราวนี้มันจะเป็นความผิดของฉันเองที่เสียเขาไปอีกครั้ง” เคซี่ กล่าว
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล