เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ในจังหวัดภาคใต้ว่า ได้ติดตามสถานการณ์อยู่ตลอด ในสัปดาห์นี้ เตรียมเดินทางไปติดตามสถานการณ์โควิดและการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ และถือโอกาสคุยกับผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนา เพื่อขอให้ช่วยทำความเข้าใจกับประชาชนให้เข้ารับการฉีดวัคซีน เพื่อลดอัตราความรุนแรงของโรค เพราะต้องการจำกัดพื้นที่การระบาดให้เร็วที่สุด

ส่วนของระบบสาธารณสุขนั้น ก็เตรียมพร้อมทั้งบุคลากร ยา และเวชภัณฑ์ต่างๆ ไว้พอสมควร มีโรงพยาบาลศูนย์ในพื้นที่คอยรองรับ โดยค่าเฉลี่ยการติดเชื้อใหม่ ในพื้นที่ภาคใต้คือประมาณ 2.3 พันราย ก็หวังว่า จะลดยอดตรงนี้ นอกจากนี้ ยังมีการระดมวัคซีนลงพื้น เพราะเมื่อป่วยแล้ว จะได้ไม่รุนแรง

ทั้งนี้การลงพื้นที่นั้น เพื่อไปดูแลสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และยังถือโอกาสนี้ไปรับฟังปัญหา ไปให้กำลังใจผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ โดยให้ความสำคัญกับการส่งวัคซีนเข้าไปในพื้นที่ เพราะตามหลักวิชาการแล้ว จะช่วยลดผู้มีอาการป่วยหนัก ไปจนถึงผู้เสียชีวิต และช่วยประคองระบบสาธารณสุขได้อย่างแน่นอน แต่สิ่งที่ต้องมาควบคู่กัน คือ การวางแผน รับมือให้ทันสถานการณ์ ได้มีการประสานในแต่ละตำบลเพื่อจัดตั้งศูนย์พักคอยในชุมชน(Community Isolation) เพื่อรองรับผู้ป่วยในพื้นที่ ไปจนถึงการเดินหน้ามาตรการกักตัวที่บ้านแล้ว มาตรการเหล่านี้ คือ กุญแจสำคัญ ที่ช่วยให้เรารอดพ้นจากสถานการณ์ที่กรุงเทพฯ ละปริมณฑลได้ ก็ต้อง นำมาใช้กับสถานการณ์ในภาคใต้”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ในส่วนของความคืบหน้าในการจัดหายาต้านโควิด 19 นายอนุทิน กล่าวว่า ทางกรมการแพทย์สนับสนุน ให้นำยาโมลนูพิราเวียร์เข้ามา ซึ่งทางรัฐบาลพร้อมสนับสนุนอยู่แล้ว ขณะที่ทางกระทรวงฯ ก็ยังเตรียมการต่างๆ เอาไว้เพื่อรับมือการระบาดของโรค อย่างไรก็ตาม ประชาชน นับว่ามีส่วนสำคัญมาก ขอให้ระมัดระวัง การ์ด อย่าตก

แม้จะได้รับวัคซีน แต่ก็ต้องรักษาวินัยไว้ก่อน ส่วนแผนการการฉีดวัคซีนสูตรแอสตร้า เซนเนก้า และไฟเซอร์ ขอให้รอคณะกรรมการวิชาการพิจารณา ทั้งนี้ ขอย้ำว่า วัคซีนที่ทางการนำเข้ามานั้น มีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ ผ่านการรับรองจาก อย.แล้ว