เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จากกรณีที่ นายจรูญ มณีพันธ์ อายุ 82 ปี ตาขี่รถซาเล้ง ถูก นายนราธร โสดติยัง หรือ จ๊อด อายุ 21 ปี ทำร้ายจนบาดเจ็บ เนื่องจากนายนราธร ขี่รถไปเฉี่ยวตาขี่รถซาเล้งจนล้มเอง ก่อนจะโมโหและตามมาเตะ ซึ่งตอนนี้อาการของคุณตาคือขยับตัวไม่ได้แล้ว แต่เรื่องนี้ไม่จบ เนื่องจากมีข่าวว่าจ๊อดไม่เคยไปเยี่ยมคุณตา ด้านลูก ๆ ของลุงจรูญ คุณเจี๊ยบ-คุณไก่ ก็โดนดราม่าว่ามักก่อเหตุทุบตีพ่อตัวเอง แต่ตอนนี้พยายามแย่งกันดูแลพ่อ เพราะมีเรื่องเงินมาเกี่ยวข้อง

ล่าสุดรายการ โหนกระแส โดย หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.20 น. ทางช่อง 28 ได้เปิดใจสัมภาษณ์ คุณยายฉลวย จริตเอก ภรรยาลุงจรูญ และเจี๊ยบ ลูกสาว รวมทั้งคู่กรณี จ๊อด และโจ้ พี่ชาย พร้อมด้วย เต้ เตชะ ทับทอง ซึ่งเข้าไปให้ความช่วยเหลือถึงประเด็นร้อนที่เกิดขึ้น

ตอนนี้คุณลุงเป็นยังไงบ้าง ?
ยายฉลวย : ยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ไม่ลืมตา เรียกได้ เวลาหิวก็บอกหิวข้าวแล้วต้องมาป้อน ลุงอายุ 82 ป้าอายุ 71

จ๊อดอายุเท่าไหร่ ?
จ๊อด : 22 ปีแล้ว มีพี่น้อง 3 คน มีครอบครัว มีลูก 2 ขวบ

เหตุการณ์เกิดวันที่เท่าไหร่ ? 
จ๊อด : 13 มีนาคม ผมกำลังจะไปบ้านเพื่อน ลุงมองมาที่ผมพอดี ผมก็ก้มไปมองโทรศัพท์ ก็กดปลดล็อก ไม่ได้พิมพ์ ขี่มอเตอร์ไซค์ปลดล็อกเพื่อดูก่อนครับว่ามีอะไรเด้งขึ้นมา แล้วลุงเขาขี่ซาเล้งสวนมาพอดี เกี่ยวปุ๊บก็ล้ม ทำให้ผมโมโห ผมเลยไม่ได้มองด้วยว่าลุงแก่หรือไม่แก่ ตอนแรกผมก็ตะโกนเรียกลุง ๆ ไม่เห็นหน้าแต่เรียกลุงไว้ก่อนครับให้เขาจอด ผมไม่รู้ว่าเขาหูตึง

คุณเดินไปแล้วทำยังไง ?
จ๊อด : ก็เตะเลยครับ

คุณเดินเข้าจะไปซ้ำ คุณเห็นไหมว่าเป็นคนแก่ ?
จ๊อด : ตอนนั้นไม่ได้มองครับ ยืนยันว่าไม่เห็น ก็ให้เพื่อนเขามาดูให้ว่าเขาเป็นอะไร ถึงได้รู้ว่าเขาแก่

ไปเห็นจัง ๆ ว่าเขาแก่ตอนไหน ?
จ๊อด : เมื่อตอนไปขอขมาที่ราชวิถี พอเห็นก็ใจหายเลยครับ

หลังจากนั้นตกลงอะไรกันบ้าง ?
จ๊อด : ตกลงค่าเสียหาย ตอนแรกเยียวยาเบื้องต้นเขาเรียกมา 2 หมื่น ผมก็จ่ายไปหมื่นห้า ทางครอบครัวเขาเรียกครับ

ยายฉลวย : ยายไม่ได้เรียก อีกคนหนึ่งเป็นประธานชุมชนเขาบอกมา ถ้าตามยาย ยายไม่ได้ร้องเรียก เขาตั้งราคาให้

เจี๊ยบ : ทางนั้นเป็นคนเสนอเองให้ 2 หมื่น ทางเราไม่ได้เรียกร้องอะไร

ทางคุณเสนอเหรอ ?
จ๊อด : ผมไม่ได้เสนอ

โจ้ : คือตอนนั้นให้ทางเพื่อนผม เป็นลูกประธานชุมชนเข้าไปคุยให้ว่าลุงเป็นยังไงบ้าง เพื่อนก็บอกว่าคุยให้แล้วนะ ทางครอบครัวบอกว่าขอ 2 หมื่น ผมก็ไม่รู้ว่าใครขอ คนกลางบอกอย่างนี้ว่า 2 หมื่นจบเลย ตอนนั้นไม่ได้ต่อ มาตอนมอบตัวที่โรงพัก

ใครพูดเรื่องเงิน 2 หมื่น ?
จ๊อด : ตอนโรงพัก ตอนแรกที่ออกมาพูดว่าจบนะ ผมก็เลยต่อรองดูว่าหมื่นห้าได้มั้ยเขาก็ตกลง ก็เขียนสัญญาต่อหน้าตำรวจ

แล้วเป็นประเด็นมาได้ยังไง ?
โจ้ : ก็ตอนที่ผมไปเยี่ยมกับเพื่อนทางพี่เขาบอกว่าเอ้า บ้านรวยนี่ บ้านมีฐานะ พี่ขออีกแสนได้มั้ย ทางผมก็ตกใจ ตกลงหมื่นห้า อยู่ดี ๆ มาขอแสนนึง ผมก็เลยถามว่าลุงเป็นเยอะมั้ย ถ้าเป็นเยอะทางครอบครัวผมจะช่วยจะจ่ายให้แสนนึง น้องผมไม่มีเงิน แต่ทางผมจะช่วยเท่าที่ช่วยได้ ก็ตกลงไกล่เกลี่ยกัน พี่เขาลดมาให้เหลือ 8 หมื่น

พอเห็นว่าพ่อเป็นเยอะ เลยไปขอเพิ่มเหรอ ?
เจี๊ยบ : ไม่ใช่ค่ะ หมื่นห้านี่คือเยียวยาเบื้องต้น ถามว่าเรียกร้องเขาได้อีกค่ะ หมื่นห้ามันยังไม่จบค่ะ มันเป็นเงินเยียวยาเบื้องต้นค่ะ เป็นค่าพยาบาล รักษาพยาบาลค่ะ มันไม่ได้ขอเพิ่มนะคะ พ่อออกจากโรงพยาบาลเราสามารถเรียกร้องเขาได้ เขาสามารถช่วยเหลือเราได้เต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นค่าโรงพยาบาลหรือค่าอะไร

โจ้ : ทางผมก็เข้าใจว่าจบ

เบื้องต้นหมื่นห้า ทางฝั่งนี้ว่าไม่จบแค่นั้น หลังจากนั้นคุณลุงมีค่ารักษาพยาบาลก็ขอเพิ่มอีก แสนนึง ขอ 8 หมื่น ขอชำระเท่าไหร่  ?
จ๊อด : 3 พันต่อเดือนครับ ผมจะพูดปากเปล่าว่าจ่ายเดือนละหมื่นก็ได้ แต่ถ้าทำไม่ได้ขึ้นมาจะเสียคนครับ 3 พันผมหาได้แน่

โจ้ : คือเขาเป็นคนหาเงินเลี้ยงครอบครัว เขาไม่ได้มาเดือดร้อนทางครอบครัวผม พ่อแม่ก็ไม่เดือดร้อน เขาหาได้เท่านี้ เขาช่วยได้เท่านี้ ถ้าหาได้เยอะกว่านี้ก็ช่วยได้เยอะกว่านี้ แต่เขารับปากได้แค่ว่า 3 พัน เขาหาได้แน่ ๆ ถ้าบอกว่าช่วยได้เดือนละหมื่น ถ้าทำไม่ได้ เขาก็ถูกด่า ถ้าหาได้มากกว่านี้ก็ให้แน่ ๆ

ให้หรือยัง ?
ยายฉลวย : ให้มาแล้วเมื่อวันที่ 19 มีนาคม

เจี๊ยบ : แต่ก็คืออย่าลืมทุกวันที่ 10 ของเดือนค่ะ

มีหลายคนตั้งประเด็นถาม ให้เงินเดือนละ 3 พันแล้ว บอกพยายามไปหาเงินได้เท่านี้ มือถือ มอเตอร์ไซค์ขายไม่ได้เหรอ ?
จ๊อด : ได้นะครับ แต่ผมก็ยังต้องใช้อยู่ในการทำงาน ถ้าขายได้ก็ขาย

ทางฝั่งนี้เขาลำบาก ทำไมไม่ไปบอกพ่อแม่ขอเงินมาให้เขาทีเดียว ?
โจ้ : ถ้าเป็นส่วนที่ลุงเขาต้องใช้จริง ๆ ผมช่วยอยู่แล้ว ไม่ต้องเอ่ยผมก็ให้ได้อยู่แล้ว น้องผมไม่มีผมก็ไม่ว่า ผมให้อยู่แล้ว ถ้าไปดูแล้วลุงเขาแย่จริง ลำบากจริง ผมไปเยี่ยมลุงทุกวัน

ตอนนี้เขาก็แย่ ?
โจ้ : ก็ช่วย ผมช่วยแน่นอน ตอนนี้ก็ช่วยอยู่ ก็นัดไว้อยู่ว่าพรุ่งนี้จะพาไปโรงพยาบาล

คุณและครอบครัวไม่เคยไปเยี่ยม ?
โจ้ : ไม่จริงครับ น้องผมไปทำงาน ไม่ไปเยี่ยม ผมกับเพื่อนยังไปเยี่ยมเลย

เจี๊ยบ : จริงค่ะ ไปเมื่อวานซืน

ไปทุกวันไหม ?
โจ้ : เกือบทุกวัน น้องไม่ไป แต่ผมไป

เจี๊ยบ : ไม่ทุกวันค่ะ ยืนยัน เจี๊ยบไม่ได้บอกว่าต้องมาเยี่ยมทุกวัน แต่ให้โทร. มาถามอาการบ้างว่าพ่อเป็นยังไง ต้องการอะไรมั้ย แต่ไม่เคยมีโทร. มาถามหลังออกจากโรงพยาบาลว่าพ่อเป็นยังไง ต้องการอะไรเพิ่มมั้ย

วันไม่ได้ไป ทำอะไร ?
โจ้ : น้องเขาก็ทำงาน พี่เขาก็บอกว่าให้ทำงานไปเลย ไม่เป็นไร ถ้าเกิดลุงเป็นอะไรก็โทร. เอาของไปเยี่ยม เขายังพูดเองเลยว่าของไม่ต้อง ถ้าเป็นไปได้ขอเป็นเงินได้มั้ย

เจี๊ยบ : เจี๊ยบไม่ได้พูดค่ะ น่าจะเป็นไก่ (พี่ชาย) แต่เจี๊ยบไม่เคยพูดเลย ก็ยังบอกเลยว่าถ้าไม่ว่างหรือทำงานก็ไม่ต้องมาเยี่ยมก็ได้แค่ให้โทร. มาถามอาการว่าเป็นยังไง ต้องการความช่วยเหลือ เจี๊ยบอยู่กับแม่สองคน

คุณเต้ ทราบที่มาที่ไป ?
เต้ : ผมกำลังมองว่าเรื่องทุกวันไม่ทุกวันเป็นอีกเรื่อง แต่ถ้านับไทม์ไลน์ เหตุการณ์เกิดวันที่ 13 มีนาคม วันที่ 20 นิด ๆ ก็เฉลี่ย 10 วัน เท่าที่รู้สารทางนี้ทางโน้นที่ตรงกัน มีการไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลกับที่บ้าน อย่างน้อย 5 ครั้ง คือไม่ได้หายไปอย่างที่ข่าวออก ถ้าถามชาวบ้านก็เห็นแม่เขาหิ้วรังนกไปให้ การบอกว่าไม่ได้ไปเยี่ยมเลยนี่ไม่ใช่แน่ ๆ เพราะ 10 วันไปเยี่ยม 5 ครั้งก็ถือว่าโอเค

ข่าวบอกว่าหายหัว หายหน้าไปเลย ?
เต้ : ทางนี้ก็จะลำบากใจเวลานักข่าวไปจี้ถามเพราะทางนี้เขาอยู่กันแค่ 2 คน แล้วบ้านจะเห็นว่าหลังใหญ่ หลังใหญ่นั้นข้างในหาร 4 แล้วเป็นห้อง 5×5 อยู่กันสามคน สภาพมันลำบาก เวลานักข่าวต้องการคำถามก็จะมาจี้ที่สองคน เราเห็นแล้วที่อึดอัดคือเขาถามแค่สิ่งที่เขาอยากรู้หรือสิ่งที่เขาอยากเอาไปทำข่าวแค่นั้น

สารพอออกมาเป็นข่าวถูกเปลี่ยน ?
เต้ : ใช่ครับ เพราะตอนแรกเราได้รับสารจากแหม่มโพธิ์ดำ เบื้องต้นคือดูคุณตาก่อน อันที่สองค่อยช่วยเรื่องคดี พอเรื่องคดีเรามาถามทางตำรวจถามหลาย ๆ ฝ่าย มันยังไม่ได้เป็นปัญหาอะไร แม้แต่ก้อนเงินที่บอกว่าช่วย 8 หมื่น ตอนแรกผมก็บอกว่าน้อยจัง จะขอช่วยเพิ่มได้มั้ย แต่พอมาถามทางนี้ ทางคุณยาย ทางเจี๊ยบ หรือทางพี่ไก่เองเขาบอกเขาโอเคแล้ว เพราะถือว่าเป็นกรรม ระหว่างที่จ๊อดกับคุณตามีด้วยกัน ถ้าจะต้องมาทะเลาะเรื่องนี้ เขาก็ขอจบแค่ตรงนี้ ก็แฮปปี้กับข้อที่คุยกันไป

ตอนนี้ มีการระดมทุนให้คนช่วยเหลือได้เท่าไหร่ ?
เต้ : เฉพาะคืนแรกคืนเดียว แฟนเพจแหม่มโพธิ์ดำ เข้ามาประมาณ 830,000 บาท

เงินก้อนนี้ใครดูแล ?
เต้ : ผมเปิดบัญชีร่วมกับคุณยาย เซ็นชื่อสองคนร่วมกัน ถ้าจะเบิกต้องเบิกร่วมกัน นี่คือเงื่อนไข หนึ่งเดือนที่คุยกันและทางนี้เสนอมาเองเขาขอแค่ค่าข้าวกับค่าขนมคุณตาวันละ 200 แล้วเผื่อเป็นค่าเช่าบ้าน 2,600 รวมแล้วตกประมาณ 8 พันกว่า ๆ ประมาณ 8 พันถึงหมื่น

มีประเด็นดราม่า แล้วถ้าเกิดคุณลุงเสียชีวิต เงินนี้จะไปอยู่ที่ไหน ?
เต้ : เบื้องต้นที่คุยกัน ถ้ามันไปถึงตรงนั้น เราก็จะนำมาใช้ดูแลเรื่องงานให้คุณตา ต่อมาก็ต้องโอนไปทางคุณยาย ต้องดูแลคุณยายก่อน เดี๋ยวว่ากันเรื่องให้ลูกหรืออะไร

ไม่มีการหลุดไปให้ใครคนใดคนหนึ่ง ?
เต้ : ใช่ครับ

จะอยู่ในการดูแลของคุณเต้อยู่ ?
เต้ : ใช่ครับ ควีนจะพูดเสมอว่าเงินก้อนนี้เป็นเงินจากแฟนเพจทุกคน เป็นเงินจากประชาชน เราจะใช้เงินทุกบาททุกสตางค์ให้ตรงกับวัตถุประสงค์ที่คนบริจาคเข้ามา

ทางตัวคุณเจี๊ยบ คุณไก่ ซึ่งเป็นลูกมีการทุบตีพ่อแม่ ?
เจี๊ยบ : ไม่มีนะคะ ไม่เคยทุบตีพ่อแม่ อาจจะเถียงพ่อแม่ เป็นเรื่องธรรมดา เรื่องทำร้ายไม่มีค่ะ

ยายฉลวย : ไม่มีทำร้ายค่ะ ไม่มีเรื่องทุบตี ยายรับรองได้

หลายคนบอกคุณเจี๊ยบชอบทำร้ายคุณลุง ครั้งหนึ่งทำร้ายจนชาวบ้านทนไม่ไหวเลยไปแจ้งความ ?
เจี๊ยบ : ไม่จริงนะคะ แถวบ้านเขาไม่ชอบเจี๊ยบอยู่แล้ว บางทีเขามีอะไรกับพ่อ แล้วเจี๊ยบอยู่กับพ่อตลอด ก็มาเรียกที่เราตลอด อย่างพ่อขับรถไปเกี่ยวเขา รถสีดำ ๆ เขาก็จะมาเรียกเงิน บอกว่าเอาเงินมาสิ พ่อไปขูดรถเขาหลายทีแล้ว คือซอยมันเล็ก แล้วมีคนจอดรถ เขาจะถอยแล้วถอยออกไม่ได้ ก็มาด่าพ่ออย่างนี้ทุกวัน ถามว่าเราเป็นลูกใครจะมาทนได้ (ร้องไห้) หนูก็ไปว่าสิคะ

ยายฉลวย : คนคนนี้แหละ แม่ยืนยันได้

เจี๊ยบ : พี่ไปถามซอยอื่นสิ หนูอยู่บ้านไม่อยู่กับใคร เพิ่งลาออกจากกระทรวงแรงงานเมื่อปีที่แล้ว เพื่อดูแลพ่อ พ่อแก่แล้ว

คุณเจี๊ยบไม่เคยทุบตีพ่อ ?
เจี๊ยบ : ไม่เคยค่ะ แต่อาจจะมีการยื้อแย่งขอเงินพ่อ จะไปทำงาน

คือขอเงินพ่อ ?

เจี๊ยบ : ขอไปทำงานซึ่งไม่พอ

พ่อไม่มีเงินให้ ?
เจี๊ยบ : มีแต่ไม่ให้ แกขี้เหนียว ก็เลยแย่งกัน ก็ผลักเขาไปโดนขอบตู้นิดหนึ่ง ยื้อแย่งกันค่ะ เลือดออกนิดหนึ่ง พ่อหนูก็โวยวายแบบนี้แหละค่ะ มีอะไรที่เป็นของเขาก็โวยวาย ซึ่งชาวบ้านก็ไม่รู้ ชาวบ้านก็ไปตามคุณตำรวจมา ตำรวจมาจริงที่บ้าน ก็เล่าเหตุการณ์ให้ตำรวจฟัง

ป้าไม่เคยเห็น ?
ยายฉลวย : ยืนยันว่าไม่มี รับรองได้

เจี๊ยบ : ไม่ว่าบ้านเจี๊ยบจะทำอะไรมีกระแสทุกอย่าง เลี้ยงแมวก็มี พี่สะใภ้มาจอดรถก็มี เปิดทีวีเสียงดังก็มี มีทุกอย่าง โดนหมด ขนาดอยู่บ้านเฉย ๆ ไม่ได้อะไรกับใครก็โดน

เขาบอกว่าประเด็นคุณกับพี่ชาย พยายามแย่งตัวลุง ทั้งที่เมื่อก่อนไม่เคยดู ?
เจี๊ยบ : ใครไม่ดูคะพี่ชายเขาอยู่ลพบุรี เขาดูแลลูก ดูแลภรรยา เขาต้องทำงาน

ยายฉลวย : ทำไมไม่เอาเรื่องจริง ๆ มาพูด มันเสียกันทั่วประเทศ เขาเป็นคนดี ดูแลพ่อ ช่วยเหลือพ่อ เถียงแทนพ่อ ด่าแทนพ่อ ชาวบ้านแถวนั้นแสบมาให้ข่าวไปกันใหญ่

จ๊อด โจ้ มาบ่อยไหม ?

ยายฉลวย : เขาก็มา แต่ใครจะมาทุกวัน เขาก็ต้องมาหากิน แต่เราไม่ได้ไปจดจำ ยายไม่ได้ไปจดจำ

วันที่เขามาขอขมา ?

ยายฉลวย : เขาก็บอกเหมือนที่เขาเล่า เขาบอกว่าเขาโมโห แค่นั้นแหละ อย่าไปใส่ใจเลยลูก มันผ่านไปแล้ว

จ๊อด : ผมก็ขอขมาป้าเขาว่าผมผิดไปแล้ว ก็คุยเรื่องค่าเสียหาย

ถ้าวันนี้ลุงไม่หาย จะทำยังไง ?
จ๊อด : ก็ดูแลไปเรื่อย ๆ ครับ

โจ้ : ถ้าน้องดูแลไม่ได้ ผมก็จะดูแล ผมรับปากจะดูแล เพราะผมรู้ว่าบ้านลุงเขาลำบาก ไปนั่งคุยกับยาย รู้เลยว่าลุงเขาลำบากจริง ๆ ถ้าน้องไม่ไหวผมก็ต้องช่วย ถ้าน้องช่วยไม่ได้ผมก็ต้องช่วย

เงิน 3,000 ตั้งใจจะให้มากกว่านี้ไหม ?

จ๊อด : ตั้งใจอยู่แล้วครับ

โจ้ : ตั้งใจแน่นอนอยู่แล้ว เป็นก้อนเลยก็ได้ ถ้าดูแล้วว่าจำเป็น ถ้าน้องไม่มี ผมให้น้องยืมเอง ผมบอกน้องเลย ถ้าพี่เจี๊ยบเขาโทร. ไป บอกว่าเดือนนี้ขอ 2 หมื่นก่อนได้มั้ย แล้วน้องมาบอกผม เพราะน้องไม่มี ผมก็ให้ ผมให้ยืมแน่นอน

ปัญหามันเกิดอะไรขึ้น ?
เต้ : ผมมองว่าสื่อค่อนข้างมีปัญหา เพราะในมุมที่ผมมอง ถ้าเขาไปเยี่ยมก็จะเป็นประเด็นทันทีเลย เท่าที่เห็น ที่เราไปคลุกคลี มีสื่อแค่บางช่องที่ไปดูแล เกาะติดทุกวัน พาไปซื้อของ มีสื่อประเภทนั้นด้วย เขาจะเสนอในมุมค่อนข้างลึก รอบด้าน แต่ก็จะมีสื่อที่ต้องการแค่ประเด็นให้มีปัญหากัน

ต้องการให้ทะเลาะกัน ?
เต้ : ใช่ แล้วเป็นการนำเสนอที่ไม่มาเยี่ยมใช่มั้ย แล้วทางนี้เรียกยังไง ทำไมเขาไม่ให้ทีละเป็นแสนเลย ทำไมต้องเดือนละ 3 พัน มันวนอยู่แค่นี้

ทางฝั่งจ๊อดก็ถูกด่าไปเรื่อย ๆ ทางฝั่งยายก็เดือดมาทะเลาะกัน ?
เต้ : ใช่ ที่คนบอกว่าฝั่งนี้พี่น้องแย่งกัน เท่าที่เราเจอคือไม่ใช่ พี่เขามาลพบุรีเพื่อวางแผนว่าพาพ่อไปต่างจังหวัด เพื่อให้สภาพอากาศหรือบ้านอยู่มันดีขึ้น เขาวางแผนกันแบบนี้ ซึ่งจะมีสื่อบางช่องที่มาถามแล้วเอาออกไปใช้ แต่สื่อส่วนใหญ่ไม่ได้สนข้อนี้เลย มองแค่ว่าทำไมทางนี้ไม่มาดูแล ตอนนี้ถึงขั้นไปเช่าบ้านอยู่ต่างจังหวัดทำเรื่องค้าขาย แล้วเอาคุณตา คุณยายไปทั้งหมด

ย้ายบ้านเห็นว่ามาเรียกร้องทางนี้ขอค่าย้ายบ้าน ?
เจี๊ยบ : ไม่มี

ยายฉลวย : ไม่มีเลย

มีใครมาขอไหม ?
โจ้ : น่าจะเป็นทางพี่ไก่ บอกว่าขอได้มั้ย ผมว่ามันไม่ได้เกี่ยวกับผม

ถ้าค่าดูแลจะให้ ?
โจ้ : ครับ ถ้าดูแล้วสมควรให้ อย่างพี่เต้บอกว่าไปที่ดี ๆ หน่อย แต่ไม่ได้รับข่าวสารว่าลุงเขาจะไปอยู่ยังไง ก็เพิ่งมารู้วันนี้เหมือนกันว่าเขาวางแผนไว้อย่างนี้ ๆ เราไม่รู้เลย แต่รู้อย่างเดียวว่าพี่ไก่พูดอยู่ว่าเขาจะพาลุงไป แต่จะพาไปวันที่ไปมอบตัวเลยนะ คืนนั้นพี่ไก่ พี่เจี๊ยบก็พูดว่าจะพาไปเช้าวันนี้เลย หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้รับข่าวสารเลย ว่าลุงเขาอยู่ยังไง แต่อย่างที่พี่เต้มาบอกแล้ว ค่าขนย้ายเดี๋ยวผมรับผิดชอบเอง

เต้ : อาจเป็นการสื่อสารที่ไม่ตรงกัน ถ้าไก่อยากได้เงินเรื่องย้ายบ้าน ทางนี้เขาโอเค เขาช่วยดูได้ โอเค อาจอยู่ในเงิน 8 หมื่นเป็นเรื่องการจัดการ แต่เรื่องของดูแลลุง ก็บอกแล้วว่าไม่ต้องแล้ว

เรื่องนี้เหมือนจบแล้ว ไม่มีอะไร ?
โจ้ : จบแล้วครับ

แต่ข่าวเหมือนทำให้เป็นประเด็นสังคมเกิดขึ้น ?
เต้ : พี่หนุ่มจะรู้สไตล์ผม ถ้าทำงานผมสไตล์บู๊ ผมบู๊เต็มที่เลย พอถามทางนี้เขามาดูแลมั้ย ทางนี้บอกว่าเขาก็มาดูแล เงินตกลงคดีไปถึงไหน เราขอจบแล้วไม่อยากเป็นเวรเป็นกรรมกันต่อ เราก็เคารพทางนี้ มันก็ไม่มีอะไรนี่หว่า

เหมือนเราไปดูข่าวที่พยายามบอกทางนี้หายไป ทางนี้ไปตีพ่อตีแม่ ออกมามั่วหมด ?
เต้ : เคสที่ชาวบ้านบอกว่าทางนี้ตีพ่อตีแม่ ชาวบ้านก็มาคุยกับผม วิธีที่ผมสื่อสารกับชาวบ้านคือผมไม่รับรู้ เพราะเรื่องมันเกิดไปแล้ว แต่เรื่องที่เกิดตอนนี้ ไม่ดีเหรอ ที่ลูกชายเขากลับมาดูพ่อมากขึ้น ไม่ดีเหรอที่ไม่มีเสียงทะเลาะอะไรกันแล้ว อนาคตเขาจะดูแลให้ดีขึ้น คุณไม่โอเคเหรอ

รู้สึกยังไงกับสิ่งที่เราทำ เราก็มีลูกสาว ?

จ๊อด : ผมก็อยากขอโทษพี่เจี๊ยบ คุณยาย และลุงครับ สิ่งที่ผมทำไปมันไม่ดี ผมไม่อยากให้ใครเอาเป็นแบบอย่าง อยากให้สังคมให้โอกาสผมให้ผมทำงานได้สบายหน่อยครับ

ทุกวันนี้เป็นยังไง ?
จ๊อด : กดดัน เดินไปไหนก็ลำบาก เดินไปไหนมาไหนก็จะโดน

โจ้ : ขนาดวินมอเตอร์ไซค์ยังบอกนี่ไอ้จ๊อดนี่หว่า

เขาจะเตะเอาเหรอ ?
จ๊อด : อยู่กับลูกด้วยครับ ผมไม่ได้อยู่แถวบ้าน แม่ไม่ให้เข้าบ้าน

โจ้ : แม่ผมรับไม่ได้เลย ไล่จ๊อดออกจากบ้านเลย แม่ผมขอไม่ยุ่ง ไล่เลย ไม่เอาเลย ผมก็รับไม่ได้ ผมด่ามันตั้งแต่วันแรกเลย เกิดเหตุ 2 วันก่อนคลิปจะมา ไล่จ๊อดออกจากบ้านตั้งแต่วันนั้น เขาต้องไปเช่าห้องอยู่ ตอนนี้จ๊อดก็ไปเช่าห้องอยู่ เพราะแม่ไม่ให้เข้าบ้านเลย

ทางคุณเต้ ?
เต้ : ไม่มีอะไร เรากับแหม่มโพธิ์ดำจะดูแลแค่ความเป็นอยู่ของลุง เรื่องคดีเราไม่ได้ไปแตะอะไร

จ๊อด : พี่เจี๊ยบเขาดีมาก เขาไม่เคยด่าเลยครับ ทางครอบครัวคุยกันดีมาก พอผมไปเห็นตาที่โรงพยาบาลผมน้ำตาไหลเลย

ที่มา – รายการโหนกระแส , Kapook