เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงส์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า คำถามที่ถูกใช้ในการสอบสัมภาษณ์ปีนี้แตกต่างจากปีก่อนๆ ซึ่งตนมีคลิปเสียง โดยมีประเด็นคำถามหลายอย่างที่ตนขอตั้งข้อสังเกต เช่น มีการตั้งคำถามเพื่อประเมินความจงรักภักดีต่อสถาบันฯ อย่างมากมายที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งตนไม่ได้ติดปัญหากับคำถามในลักษณะนี้ แต่ที่ติดใจคือคณะกรรมการสอบสัมภาษณ์จะประเมินความจงรักภักดีออกมาในเชิงวิทยาศาสตร์เพื่อให้คะแนนได้อย่างไร ทั้งนี้ ยังมีคำถามต่อม็อบ 3 นิ้ว มีความเห็นต่อการเมืองอย่างไร รวมถึงความเห็นต่อการบริหารของพล.อ.ประยุทธ์ และมีการตั้งคำถามซึ่งเชื่อว่ามีจุดประสงค์ที่จะคัดเอาผู้มีความหลากหลายทางเพศ หรือ LGBT ออกไป หรือผู้สมัครที่มีทัศนคติเชิงบวกต่อ LGBT ก็จะคัดออกจากระบบด้วย 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำถามที่เกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศ เช่น มีเพื่อนเป็น LGBT หรือไม่ เพื่อนเราด้วยกันมาบอกเราว่าชอบเราอยากคบเราเป็นแฟน ผู้ชาย เราจะบอกเขาว่าอย่างไร ถ้าตำรวจทหารเป็นตุ๊ดเป็นแต๋วอยู่ในเครื่องแบบเราคิดว่าอย่างไร เราบอกเราอยากมีลูก วันหนึ่งลูกเราเป็นเพศที่สามขึ้นมาเราจะทำอย่างไรกับลูก เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีชุดคำถามที่ใช้ในการสัมภาษณ์ LGBT 18 ข้อ เช่น ถ้าอยู่ร่วมหรือทำงานกับคู่รักเพศเดียวกัน คิดว่าคนกลุ่มนี้จะต้องเข้ารับการรักษาหรือไม่ คิดอย่างไรเกี่ยวกับการผลักดันการจดทะเบียนสมรสของผู้ที่ชอบเพศเดียวกัน เป็นต้น ซึ่งอัตลักษณ์ทางเพศไปเกี่ยวข้องอะไรกับการรับราชการตำรวจ ชัดเจนว่าคณะกรรมการต้องการคัดผู้สมัครที่เป็น LGBT ออกจากระบบ แต่ที่แย่และร้ายกาจ ไม่ใช่เฉพาะการคัดเลือก LGBT แต่กำลังคัดนักเรียนที่มีทัศนคติที่ดีต่อคนกลุ่มนี้ออกไปด้วย หรือกลุ่มนักเรียนที่ให้ความเคารพโอบรับต่อความหลากหลายทางเพศออกไปด้วย 

สุดท้ายกลายเป็นว่ากองทัพจะได้ทหารตำรวจที่เป็นแค่กำลังพลเหยียดเพศ ไม่เคารพต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ละเมิดสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้ กองทัพไม่ใช่ไม่ยอมรับกลุ่ม LGBT เท่านั้น แต่กองทัพกำลังไม่ยอมรับคนที่มีทัศนคติสากลที่ยอมรับความหลากหลายทางเพศ ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ที่กำกับดูแล สตช.และกลาโหม ต้องตอบคำถามดังกล่าวให้ชัดว่านโยบายดังกล่าวเป็นแนวคิดใคร หากชี้แจงไม่ได้ พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องรับผิดชอบ