เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดโพธิ์สว่างบ้านหนองนารี หมู่ 8 ต.บุสูง อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ นางสุทัตตา ศรีละออน อายุ 45 ปี พร้อมด้วย นางแจง ศรียงยศ อายุ 51 ปี นางอริสรา สมนึก อายุ 50 ปี นายประวิทย์ พรมศิริ อายุ 59 ปี และชาวบ้านหนองนารี ได้นำสื่อมวลชนไปตรวจสอบทรัพย์สินของวัดโพธิ์สว่าง ประกอบด้วยเก้าอี้พลาสติกของวัดโพธิ์สว่าง จำนวนประมาณ 10 ตัว ที่บริเวณด้านหลังเก้าอี้มีตัวอักษรคำว่า วัดโพธิ์สว่าง และเก้าอี้อีกหลายตัว
ข่าวอื่นๆเพิ่มเติม
มีร่องรอยโดนใช้สีดำพ่นทับอักษรวัดโพธิ์สว่าง ฐานเหล็กตั้งพระพุทธรูปในศาลาการเปรียญ จำนวน 4 อัน และเต็นท์ของวัดอีกจำนวน 3 หลัง ซึ่งเป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่า ทรัพย์สินทั้งหมดนี้เป็นของวัดโพธิ์สว่าง แห่งนี้ โดยคณะกรรมการวัดโพธิ์สว่างและชาวบ้านหนองนารีได้ติดตามไปเอาคืนมาจากร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งที่ อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์
มีชาวบ้านเห็นว่า พระมหาจักรพงษ์ จักกธัมโม หรือพระเก่ง อายุ 38 ปี เจ้าอาวาสวัดโพธิ์สว่าง ได้นำสิ่งของดังกล่าวเอาออกไปจากวัดไปใช้ในร้านคาราโอเกะที่มีข่าวว่า พระเก่งได้ร่วมกับหญิงสาวคนสนิทไปเปิดร้านคาราโอเกะ และขณะนี้พระเก่งได้หายตัวออกไปจากวัดได้ประมาณ 1 เดือนเศษแล้ว โดยพระเก่งได้นำเอาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารและเอกสารสำคัญต่าง ๆของวัดโพธิ์สว่างติดตัวไปด้วย
นางสุทัตตา ศรีละออน อายุ 45 ปี กล่าวว่า พระมหาจักรพงษ์ จักกธัมโม หรือพระเก่ง เป็นเจ้าอาวาสวัดโพธิ์สว่าง ได้หายออกไปจากวัดนานร่วมเดือนเศษแล้ว ต่อมามีชาวบ้านที่ไปค้าขายอยู่ที่ อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ ไปพบว่า พระเก่งสวมชุดฆราวาสที่ร้านคาราโอเกะ อ.สำโรงทาบ ไม่ได้ห่มผ้าเหลืองแต่อย่างใด
ซึ่งชาวบ้านที่พบเห็นยืนยันชัดเจน และต่อมาชาวบ้าน อ.สำโรงทาบซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินที่พระเก่ง ได้ไปเช่าที่ดินเพื่อเปิดร้านคาราโอเกะ ได้ยืนยันว่า พระเก่งกับสาวคนสนิทมาร่วมหุ้นกับลูกสาวของตนเองเพื่อเปิดร้านจึงไม่ได้คิดค่าเช่า
ส่วนชาวบ้านอีกราย เปิดเผยว่า อยากให้พระมหาจักรพงษ์ เอาสมุดบัญชีธนาคารของวัดและเอกสารสิทธิ์ที่ดินของวัดมาคืนให้คณะกรรมการวัด และขอให้มาชี้แจงกับชาวบ้านว่า เงินผ้าป่า เงินกฐิน และเงินบริจาคต่าง ๆ ซึ่งได้มาตั้งแต่ปี 2560 รวม 3 ล้านบาท ได้เอาเงินไปเข้าบัญชีของวัดหรือไม่ มีการใช้จ่ายอะไรไปบ้าง และตอนนี้วัดมีเงินเหลือเท่าไหร่ หากไม่มีการชี้แจง ก็จะแจ้งให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ส่วนทรัพย์สินภายในกุฏิของพระมหาจักรพงษ์ นั้น ยังอยู่ภายในกุฏิ เป็นรูปปั้นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ซึ่งแต่ละองค์มีน้ำหนักมาก อาตมาภาพและพระอีกหลายรูปได้ช่วยกันยกขึ้นไปไว้บนกุฏิให้กับพระมหาจักรพงษ์ จักกธัมโม สำหรับเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมานั้น อาตมาภาพไม่ทราบ เป็นเรื่องที่คณะกรรมการวัดและชาวบ้านร่วมกันดำเนินการ
พระบุญสูง จิตตธัมโม พระผู้ดูแลวัด เปิดเผยว่า ทรัพย์สินที่ชาวบ้านไปเอามาคืนได้นั้น เป็นของวัดชัดเจน เพราะมีตัวอักษรติดแสดงความเป็นเจ้าของชัด แม้บางส่วนจะพ่นสีปิดเอาไว้ ส่วนพระมหาจักรพงษ์ ก็หายออกจากวัดไปนานแล้ว อาตมาภาพเป็นผู้ดูแลวัดชั่วคราว ส่วนทรัพย์สินภายในกุฏิพระมหาจักรพงษ์ ก็ยังคงมีอยู่ เป็นรูปปั้นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ แต่ละองค์มีน้ำหนักมาก อาตมาภาพและพระอีกหลายรูปได้ช่วยกันยกขึ้นไปไว้บนกุฏิให้ หลังจากนี้เรื่องทั้งหมด เป็นเรื่องที่คณะกรรมการวัดกับชาวบ้านจะดำเนินการ
ทั้งนี้ มีรายงานว่าพระมหาจักรพงษ์ ลาสิกขาไปแล้วและกำลังทำสวนยางอยู่ที่ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ