เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ควรระวังเป็นอย่างมากจะทานอะไรที่มีความเสี่ยง ไม่งั้นอาจจบไม่สวย นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผย กรณีลูกเรือประมงเสียชีวิตหลังรับประทานไข่ปลาปักเป้า 2 ราย และอาการสาหัส 1 ราย รับการรักษาที่โรงพยาบาลสิชล จ.นครศรีธรรมราช ว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้รับรายงานผู้ป่วยมีอาการจากพิษปลาปักเป้าเป็นครั้งคราว ทั้งปลาปักเป้าน้ำเค็มและปลาปักเป้าน้ำจืด ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา พบเหตุการณ์ 6 ครั้งในจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีผู้ป่วย 17 ราย เสียชีวิต 5 ราย

โดยปลาปักเป้ามีพิษที่ชื่อว่า เตโตรโดท็อกซิน ซึ่งจะอยู่ในอวัยวะภายใน ทั้งตับ สำไส้ และหนังปลา ส่วนที่มีพิษมากที่สุดคือไข่ปลา โดยเฉพาะในช่วงฤดูปลาวางไข่พิษจะมีมากที่สุด ที่สำคัญคือพิษปลาปักเป้าทนความร้อนสูงมาก ความร้อนไม่สามารถทำลายพิษได้ ไม่ว่าจะต้ม ทอด ย่าง เผา ก็ตาม และความเค็มจากการแปรรูปเป็นปลาร้าก็ไม่สามารถทำลายพิษได้เช่นกัน ประชาชนจึงไม่ควรรับประทานปลาปักเป้า เพราะมีพิษร้ายแรงถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้ โดยเฉพาะหากรับประทานในปริมาณมาก หรือเป็นผู้สูงอายุที่มีภูมิต้านทานน้อย มีโรคประจำตัว และดื่มสุรา ก็จะส่งผลให้พิษออกฤทธิ์เร็ว โอกาสเสียชีวิตสูง

นอกจากนี้ ขอให้ประชาชนสังเกตเนื้อปลาแล่เป็นชิ้นที่จำหน่ายในตลาด อาจมีเนื้อปลาปักเป้าปะปนอยู่ โดยจะมีเนื้อคล้ายเนื้อสันของไก่ทำให้เรียกทั่วไปว่า ปลาเนื้อไก่ ซึ่งอาจได้รับพิษจากส่วนที่เป็นพิษของปลาปักเป้า โดยหลังกินประมาณครึ่งชั่วโมง จะมีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ชาที่ลิ้นและริมฝีปาก ลามถึงหน้าและแขนขา ระคายในลำคอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย เดินไม่ไหว ร่างกายเป็นอัมพาต หายใจล้มเหลว อาจเสียชีวิตได้ภายใน 4-6 ชั่วโมง ความรุนแรงขึ้นอยู่กับปริมาณที่กินเข้าไป ปัจจุบันนี้ ยังไม่มียาแก้พิษหรือยารักษาเฉพาะ จะต้องนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด

ที่มา – mthai