วางก่อนค่อยตาม ”คดีลุงพล” ทนายนรเศรษฐ์ ชี้แค่จับกุม นานกว่าจะตัดสิน แนะให้ ปชช.จับตาสภาลงมติ “งบปี 65” เน้นย้ำ เรื่องนี้กระทบกับทุกคนแน่นอน
ต้องบอกว่าช่วงนี้มีข่าวมากมายที่เป็นกระแสดัง แต่ที่ดังยิ่งกว่าแสข่วอื่นๆก็คงหนีไม่พ้นข่าว กรณีการหายตัวไปของ “น้องชมพู่” ด.ญ.อรวรรณ วงศ์ศรีชา เด็กหญิงวัย 3 ขวบ จากบ้านพักในหมู่บ้านกกกอก เมื่อวันที่ 11 พ.ค 2563 ก่อนถูกพบเสียชีวิตอยู่บริเวณเขาภูเหล็กไฟ ต่อมา คืนวันที่ 1 มิ.ย.64 ศาลจังหวัดมุกดาหาร อนุมัติหมายจับ นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล พร้อมตั้ง 3 ข้อหา คือ พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา โดยปราศจากเหตุอันควร, ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกิน 9 ปี เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย, และกระทำการใดๆ แก่ศพ หรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป
และเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 2564 เวลา 10.55 น. นายไชย์พล พร้อมภรรยา เดินทางมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเข้ามอบตัวแล้วนั้น ผู้สื่อข่าวรายงาน กรณีคดี “ลุงพล” ได้สร้างกระแสความสนใจในโซเชียลเน็ตเวิร์กเป็นวงกว้าง ทั้งนี้ ยังมีกระแสอีกด้านที่มองว่าเป็นการพยายามกลบข่าวที่สภาผู้แทนราษฎรกำลังพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท หรือไม่ เนื่องจากมีการปล่อยข่าวในช่วงเวลาเดียวกัน
ส่วนในด้าน นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความเห็นต่อคดีดังกล่าว โดยระบุว่า ศาลอนุมัติหมายจับลุงพล ไม่ได้หมายความว่าลุงพลเป็นผู้กระทำความผิดจริง เพราะการรับฟังพยานหลักฐานในชั้นขอออกหมายจับ กับชั้นพิจารณาคดีแตกต่างกันมาก ชั้นขอออกหมายจับขอเพียง “มีหลักฐานตามสมควรว่าน่าจะกระทำความผิด” แต่ในชั้นพิจารณาคดีจะต้อง “พิสูจน์จนสิ้นข้อสงสัยว่าจำเลยกระทำความผิด ถ้ามีข้อสงสัยต้องยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้กับจำเลย”
ทนายนรเศรษฐ์ กล่าวว่า ในความเป็นจริงแล้วคดีที่มีการออกหมายจับเมื่อต่อสู้คดีก็พิพากษายกฟ้องกันอยู่เรื่อย ๆ มีให้เห็นเป็นประจำ และหากยึดหลักการสันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาเป็นผู้บริสุทธิ์ลุงพลก็ควรได้รับสิทธิประกันตัวออกมาต่อสู้คดีอย่างเต็มที่และเป็นธรรม และ นายนรเศรษฐ์ยังทวีตข้อความผ่านทางทวิตเตอร์อีกด้วยว่า คดีลุงพลน้องชมพู่แค่จับกุมยังไม่ตัดสินภายในวันสองวันนี้แน่นอน คงใช้เวลาอย่างน้อยสัก 1 ปี แต่เรื่องงบประมาณปี 2565 ซึ่งกระทบกับทุกๆ คน น่าจะมีการพิจารณาลงมติในเร็วๆ นี้ มาร่วมจับตาเรื่องงบประมาณกันก่อน ค่อยไปตามข่าวเรื่องลุงพลก็ยังไม่สายครับ #น้องชมพู่ ฝากไว้ในอ้อมอกอ้อมใจพ่อแม่พี่น้องด้วยนะครับ
วันที่ 1 มิ.ย. 2564 เวลา 09.00 น. ที่ผ่านมานี้ เปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นวันที่สอง เพื่อการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 วงเงิน 3,100,000 ล้านบาท วาระแรก หลังวานนี้ (31 พ.ค.64) ประธานสั่งพักการประชุมเมื่อเวลา 00.12 น. โดยวันแรกของการอภิปรายเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งฝ่ายค้านมุ่งเน้นอภิปรายภาพรวมการจัดสรรงบประมาณที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยเฉพาะการจัดสรรงบประมาณของกระทรวงกลาโหมท่ามกลางสถานการณ์โควิด -19
ขณะ ที่รัฐบาล ยืนยันว่า กระทรวงกลาโหมให้ความสำคัญในการดูแลประชาชนโดยใช้ศักยภาพของกำลังพล ยุทโธปกรณ์และเครื่องมือช่วยสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด -19 แม้ว่างบประมาณจะถูกปรับลดต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2563-2565 พร้อมยืนยันจะใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์มากที่สุด ดั้งนั้น ทนายนรเศรษฐ์ จึงออกมาพูดถึงประเด็นนนี้และอยากให้ประชาชนทุกคนมาร่วมจับตาเรื่องงบประมาณกันก่อน ค่อยไปตามข่าวเรื่องลุงพลก็ยังไม่สาย