เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันที่ 31 พฤษภาคม 2564 น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มีคำสั่งเรื่อง แนวทางการปฏิบัติการเก็บเงินบำรุงการศึกษา ค่าธรรมเนียมการศึกษา ค่าธรรมเนียมการเรียน และค่าธรรมเนียมอื่นๆ

หลังจากมีผู้ปกครองร้องเรียนเรื่องการเก็บเงินบำรุงการศึกษา ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 ของสถานศึกษา เข้ามาที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จำนวนมาก ตนได้รับทราบปัญหาและมีนโยบายให้ต้นสังกัดของโรงเรียน สถานศึกษาในสังกัด และในกำกับของ ศธ. ดำเนินการแก้ไขปัญหา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา

โดยสาระสำคัญในประกาศ ระบุว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 กำหนดให้มีการเลื่อนเวลาเปิดภาคเรียนที่ 1 ประจำปีการศึกษา 2564 และให้โรงเรียนหรือสถานศึกษาในสังกัด และในกำกับของ ศธ. จัดการเรียนการสอนเฉพาะรูปแบบการจัดการศึกษาทางไกล โดยบางสถานศึกษาที่มีความพร้อม และประสงค์จะจัดการศึกษาในรูปแบบ On Site หรือเรียนที่โรงเรียนได้ จะต้องผ่านเกณฑ์การประเมินความพร้อมของระบบ Thai StopCOVID Plus (TSC+) และได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดก่อน

ด้วยรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนดังกล่าว ประกอบกับมีโรงเรียนหรือสถานศึกษาบางแห่ง เรียกเก็บเงินบำรุงการศึกษา ค่าธรรมเนียมการศึกษา ค่าธรรมเนียมการเรียน และค่าธรรมเนียมอื่นจากผู้ปกครอง

ดังนั้น เพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่าย บรรเทาความเดือดร้อนของผู้ปกครอง ศธ. จึงกำหนดแนวปฏิบัติการเก็บเงินบำรุงการศึกษา ค่าธรรมเนียมการศึกษา ค่าธรรมเนียมการเรียน และค่าธรรมเนียมอื่น ให้โรงเรียนหรือสถานศึกษาในสังกัด หรือในกำกับของ ศธ. ปฏิบัติ ดังนี้

1.ในกรณีที่ได้มีการเรียกเก็บเงินบำรุงการศึกษา ค่าธรรมเนียมการศึกษา ค่าธรรมเนียม การเรียน และค่าธรรมเนียมอื่นไปแล้ว ให้คืนเงินบำรุงการศึกษาหรือค่าธรรมเนียมดังกล่าว ในส่วนที่ไม่ได้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนนั้นในระหว่างที่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19

2.ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องเรียกเก็บเงินบำรุงการศึกษา ค่าธรรมเนียมการศึกษา ค่าธรรมเนียมการเรียน และค่าธรรมเนียมอื่น เพื่อใช้จ่ายในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน อาจพิจารณาผ่อนผันหรือขยายระยะเวลาการเรียกเก็บเงินบำรุงการศึกษา หรือค่าธรรมเนียมดังกล่าว ตามความเหมาะสมเป็นกรณีไป

3.พิจารณาให้ความช่วยเหลือ ในกรณีที่ผู้ปกครองของนักเรียน นักศึกษา ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว ตามความจำเป็น เหมาะสม

4.ให้หน่วยงานต้นสังกัดหรือที่กำกับโรงเรียนหรือสถานศึกษา แจ้งเวียนไปยังสถานศึกษาในสังกัด หรือในกำกับ ให้ปฏิบัติตามประกาศนี้

ทั้งนี้ ประกาศดังกล่าวกำหนดตั้งแต่ปีการศึกษา 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น