ผุดอีกดราม่า #แบนmedemoji ชาวทวิต สับแหลก!!! "ยิ่งพูดยิ่งบ้ง" (มีคลิป)

กลายเป็นประเด็นดราม่าจนขึ้นเทรนด์ทวิต #แบนmedemoji เมื่อผู้ใช้ติ๊กตอกรายหนึ่งชื่อ medemoji ซึ่งมียอดผู้ติดตามใน TIKTOK มากกว่า 3 ล้านคน และยอดผู้ติดตามในอินสตาแกรมมากถึง 2 แสนคน กำลังถูกกระแสวิพากย์วิจารณ์อย่างหนักใน Twitter เกี่ยวกับพฤติกรรมไม่เหมาะสมของเธอคือ

วิจารณ์เรื่องทรงผมของแฟนคลับชาวลาวท่านหนึ่งว่าได้ลอกเลียนแบบจากเธอ จนเกิดกระแสวิจารณ์อย่างหนักว่า ทรงผมเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็สามารถทำได้ ไม่ใช่ว่าเธอสามารถทำทรงนี้ได้เพียงคนเดียวแล้วจะแปลว่า คนอื่นลอกเลียนแบบเธอ
เธอออกมาทำคลิปขอโทษถึงประเด็นข้างต้น แต่ในคลิปขอโทษกลับมีเนื้อหาย้อนแย้งกับสิ่งที่ได้พูดไปก่อนหน้านี้
หลังจากนั้นเธอจึงทำคลิปง้อแฟนคลับออกมาอีกหนึ่งคลิป แต่ถ่ายทำโดยใช้ฟิลเตอร์หน้าดำ ซึ่งเธอสื่อว่า ตอนตัวดำสื่อถึงตัวเองเป็นคนแย่ แต่พอตัวขาวแล้วสื่อถึงแฟนคลับให้อภัยเธอแล้ว จึงถูกกระแสวิพากย์วิจารญ์อีกครั้งพร้อมถูกตั้งคำถามว่า เหตุใดคนผิวดำหรือความดำต้องถูกเปรียบเทียบไปในทางที่แย่
เธอไลฟ์สดแต่มีคำพูดหลุดออกมา ซึ่งเป็นคำถามที่เธอถามว่า เธอผิดอะไรกับประเด็นต่างๆ ที่เกิดขึ้น จึงเกิดกระแสวิจารณ์อีกครั้งว่า ที่เธอทำคลิปขอโทษนั้น ความจริงเธอทำไปเพราะถูกกระแสวิจารณ์อย่างหนัก แต่เธอกลับไม่ได้สำนึกกับความผิดของการกระทำของตนเอง
เธอลงสตอรีในอินสตาแกรมว่าได้เข้าแจ้งความกับทางตำรวจเรื่องที่มีชาวเน็ตโพสต์ต่อว่าเธอให้เสียหาย แต่ภาพที่ใช้กลับเป็นภาพตัดต่อและภาพที่นำมาจากอินเทอร์เน็ต จึงถูกชาวเน็ตตั้งคำถามถึงเรื่องที่เธอลงโฆษณาเว็บพนันออนไลน์ว่าการกระทำนี้ของเธอจะเข้าข่ายความผิดด้วยหรือไม่
คุณแม่ของเธอได้ส่งข้อความส่วนตัวมาต่อว่าผู้ที่วิพากย์วิจารณ์ลูกสาวด้วยถ้อยคำหยาบคายพร้อมขู่ว่าจะแจ้งความจับทุกคน
เธอลงสตอรีคลิปผีเก้าอี้ซึ่งมีจังหวะ jump scare (ฉากที่ทำให้คนดูตกใจกลัว) ในอินสตาแกรมโดยไม่มีคำเตือน ซึ่งถือเป็นอันตรายกับผู้ที่มีโรคหัวใจและคนขวัญอ่อนที่อาจทำให้หัวใจวายได้

ทั้งนี้ สาเหตุที่ชาวเน็ตได้ออกมาวิพากย์วิจารณ์ถึงการกระทำที่ไม่เหมาะสมของเธอนั้น เป็นเพราะผู้ติดตามจำนวนมากของเธอ หนึ่งในนั้นต้องมีเด็กๆ ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะอยู่ด้วย ซึ่งเธอมีการรับโฆษณาเว็บพนันออนไลน์ที่อาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย และนอกจากเด็กๆ แล้ว ผู้ติดตามหลายคนก็เป็นผู้ที่มีโรคประจำตัวอย่างโรคหัวใจ การกระทำที่ไม่ยั้งคิดของเธอบางอย่างอาจทำให้ใครหลายคนต้องเข้าโรงพยาบาลได้ และท้ายสุด การกล่าวขอโทษของเธอนั้น ไม่ได้มาจากการสำนึกที่แท้จริง หากแต่เป็นไปเพราะถูกกระแสวิจารณ์อย่างหนักที่บังคับให้เธอออกมาขอโทษเท่านั้น