เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จากกรณีที่ อัพ กุลทรัพย์ วัฒนผล นักกีฬาอีสปอร์ต รุ่นบุกเบิก เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด โดยก่อนจะเสียชีวิตนั้น เขาระบุว่าต้องกักตัวอยู่ที่บ้านหลายวัน กว่าจะได้เข้าไปหาหมอ ก็เหลือปอดเพียง 20% แล้ว ล่าสุด เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2564 ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ นักการเมืองอิสระ อดีตแคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าว โดยข้อความระบุว่า

ขอแสดงความเสียใจกับการจากไปของ “พี่อัพ VGB” กุลทรัพย์ วัฒนผล
(https://www.facebook.com/kunlasub.wattnaphon)
ผมไม่ได้รู้จักคุณอัพเป็นการส่วนตัว แต่น้องในทีมงานมีความคุ้นเคยและเล่าเรื่องคุณอัพให้ฟัง
อ่าน FB ของคุณอัพแล้วเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามากๆ และเราได้ยินเรื่องราวที่ไม่น่าจะเกิดแบบนี้หลายๆครั้งในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้
มันเกิดอะไรขึ้น?
สถานการณ์โควิดของ กทม.น่าเป็นห่วงมากกว่าทุกจังหวัด
(จำนวนผู้ป่วยต่อวัน ย้อนหลัง 5 วัน: 350 365 446 740 1,582)
รพ.ของในกรุงเทพ มีหลายหน่วยงาน เช่น รพ.กทม. รพ.โรงเรียนแพทย์ รพ.กระทรวงสาธารณสุข รพ.หน่วยราชการอื่นเช่น ทหาร ตำรวจ รพ.เอกชน เเต่การที่กรุงเทพมหานครไม่ได้มีระบบบัญชาการรวมศูนย์เหมือนระบบของกระทรวงสาธารณสุขในต่างจังหวัด (สาธารณสุขจังหวัด) ซึ่งอาจทำให้การบริหารจัดการไม่เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ยิ่งตอนนี้ มีประกาศของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ว่าถ้า รพ.แห่งใดตรวจ ตรวจหาการติดเชื้อ COVID เมื่อผลการตรวจเป็น “บวก” รพ.นั้นๆต้องรับผู้ป่วยไว้ ทำให้ รพ.ต่างๆโดยเฉพาะภาคเอกชนไม่ต้องการทำการช่วยตรวจ เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ผู้ป่วยหรือผู้ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อจากการสัมผัสผู้ป่วย หาที่ตรวจ Swab ไม่ได้ ทำให้อาจมีการแพร่เชื้อ และเมื่อผู้อาการหนัก ถึงไปหาหมอ หรือเสียชีวิตอยู่ที่บ้าน
จากการหารือกับทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขในกลุ่ม Better Bangkok เราเห็นว่าควรจะต้องมีการประสานงานศูนย์บัญชาการร่วมเพื่อมีการทำงานร่วมกันระหว่าง กทม. กระทรวงสาธารณสุข รพ.สังกัดโรงเรียนแพทย์ รพ.ของส่วนราชการในพื้นที่กรุงเทพมหานคร รวมถึง รพ.เอกชน เพื่อดำเนินการ
1. รวบรวมทรัพยากรที่มีเพื่อบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ตั้งศูนย์ตรวจกลาง เพื่อตรวจเชื้อให้มากที่สุด
3. จัดสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับรองรับผู้ป่วย ผู้ป่วยที่อาการน้อยและยังไม่จำเป็นต้องเข้าโรงพยาบาล อาจให้อยู่ที่บ้าน (ถ้ามีความพร้อม) หรือสถานที่อื่นที่จัดเตรียมไว้เพื่อลดการแพร่เชื้อและลดภาระโรงพยาบาลและมีมาตรการในการติดตามที่เข้มงวดและพร้อมจะรับกลับมารักษาที่ รพ.และให้ยาที่เหมาะสม
4. วางแผนในการจัดตั้ง รพ.เฉพาะสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง เพื่อเป็นการช่วยผู้ป่วยที่ไม่สามารถเข้ารับการรักษาตัวใน รพ.ได้
5. ขอความร่วมมือ รพ.โรงเรียนแพทย์ รพ.สังกัดอื่นๆ และ รพ.เอกชน เพื่อบริหารจัดการการดูแลรักษาส่งต่อผู้ป่วยร่วมกันอย่างเป็นระบบ
ในกรุงเทพฯเรามีทรัพยากรและบุคลากรด้านการแพทย์ที่เก่งและมีศักยภาพสูงอยู่มาก ขอเพียงให้มีการบริหารจัดการเพื่อให้เกิดความร่วมมือกันอย่างเป็นระบบก็จะสามารถพาพวกเราผ่านพ้นวิกฤติในครั้งนี้ไปได้
ตอนนี้ทุกๆท่านปฏิบัติงานกันอย่างเหน็ดเหนื่อย อย่าให้ต้องมากังวลเรื่องการบริหารจัดการหรือการขาดแคลนอุปกรณ์อีก ผู้รับผิดชอบต้องทุ่มเททรัพยากรที่มีมาช่วยสนับสนุนและร่วมมือกันอย่างเต็มที่ อย่าเอากฎระเบียบมาเป็นอุปสรรคในการทำงาน
ขอเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์และอาสาสมัครสาธารณสุขทุกๆท่าน และขอให้ท่านที่ป่วย รักษาตัวหายจากอาการ ปลอดภัยแข็งแรงดีไวๆนะครับ
เราต้องอย่าให้การสูญเสียคุณอัพ อาม่า และคนอื่นๆจากโควิดเป็นเรื่องสูญเปล่า อย่าให้เราต้องใช้ Social Media ในการขอรถพยาบาลหรือหาเตียง เราต้องเรียนรู้ พัฒนา ปรับปรุง เพื่อไม่ให้เรื่องที่ไม่น่าเกิดนี้เกิดขึ้นกับคนอื่นๆอีกในอนาคต

เนื้อหาอื่นที่เกี่ยวข้อง